นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซาบีน่า (SABINA) เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสแรก ปีนี้ 906.5 ล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 32.5 ล้านบาท คิดเป็น 3.7% และเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) 35.8 ล้านบาท คิดเป็น 4.1%
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 67 อยู่ที่ 122.7 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสแรกของปีก่อน 4.7% และเติบโตจากไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว 8.1% โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 13.5%
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้รายได้จากการช่องค้าปลีก (Retail) เติบโตขึ้น 5.0% ช่องทางออนไลน์ (NSR : Non Store Retailing) เติบโต 33.4% ขณะที่ช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) เติบโตลดลง 57.2% ขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ ยังลดลงจากการลงทุนเครื่องจักรในไลน์ผลิตที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น ลดการสูญเสียในระหว่างการผลิตได้มากขึ้น
"กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก ส่วนหนึ่งมาจากการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีนโยบายซื้อสินค้าลดหย่อนภาษี ภาษี "อีซี่ อี-รีซีท" (Easy E-Receipt) สร้างความตื่นตัวให้กับผู้บริโภค รวมถึง SABINA ได้เดินหน้าทำแคมเปญกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ต่อยอดความสำเร็จของสินค้าในกลุ่ม "บราเลส" (BRALESS) ซึ่งเป็นสินค้าขายดีในปี 2566 ที่ยังสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องข้ามมาถึงปี 2567 ด้วยความโดดเด่นของนวัตกรรม "ใส่สบาย" ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกช่วงอายุ ทุกเจนเนอเรชั่น และทุกรูปร่าง โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้นำเสนอแนวคิดหลักอยู่ที่การเปิดอกรับความสบาย ด้วยแนวคิดทำตัวสบายๆ จนกลายเป็นกระแสไวรัล และทำให้สินค้าในกลุ่ม "บราเลส" กลับมาสร้างความโดดเด่นในไตรมาสแรกได้อย่างยอดเยี่ยม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว
นอกจากนี้ ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา SABINA ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นใหม่ Janesuda x SABINA ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่ผนึกความร่วมมือกับ "เจนสุดา" (Janesuda) แบรนด์เสื้อผ้าระดับไฮเอนด์สัญชาติไทย ในการออกแบบชุดชั้นใน (Innerwear) และชุดสำหรับสวมใส่ภายนอก (Outerwear) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ "ซาบีน่า" ที่สร้างสรรค์เสื้อผ้าที่นอกเหนือไปจากชุดชั้นใน และเป็นตามแผนที่บริษัทฯ วางไว้สำหรับปี 2567 ที่ "ซาบีน่า" จะขยายสินค้าให้หลากหลายขึ้น รวมถึงขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ เพื่อเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปีนี้ SABINA ยังมีแผนรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดภายในประเทศ ที่จะมีสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ ซึ่งทยอยเปิดตัวและวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 รวมถึงการทำตลาดในต่างประเทศหลังจากเข้าลงทุนในฟิลิปปินส์ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนที่จะขยายลูกค้าในช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) จากเดิมที่ลูกค้ากลุ่มหลักอยู่ในยุโรปและสหราชอาณาจักร ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขยายฐานลูกค้ารับจ้างผลิตไปในประเทศอื่นๆ ทั้งเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งมั่นใจว่า ทั้งหมดนี้จะทำให้เป้าหมายการเติบโตในปีนี้ที่ 5-10% มีความเป็นไปได้แน่นอน