บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นพร้อมมุมมองอนาคตในทิศทางบวกในไตรมาส 1/67 ทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร โดยผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้น จากความต้องการการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ปริมาณการรับประทานอาหารภายในร้านที่มากขึ้น ความสามารถในการเพิ่มราคาห้องพักและการใช้จ่ายเฉลี่ย รวมถึงการขยายพอร์ตโฟลิโอผ่านการเปิดโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ส่งผลให้รายได้ตามงบการเงินไตรมาส 1/67 เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 38,050 ล้านบาท
ในไตรมาส 1/67 บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) ตามงบการเงินเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าการเติบโตของรายได้ โดยเติบโต 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 9,923 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าประทับใจนี้ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ พร้อมกับการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์การบริหารค่าใช้จ่ายของบริษัท ทำให้บริษัทสามารถสร้างผลกำไรสุทธิตามงบการเงินในไตรมาส 1/67 จำนวน 1,146 ล้านบาท แม้จะอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลเดินทางในทวีปยุโรป แต่แสดงให้เห็นถึงผลการดำนินงานของบริษัทที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ จากผลขาดทุนตามงบการเงินไตรมาส 1/66 จำนวน 976 ล้านบาท
โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการดำเนินงานพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเอื้ออำนวย ส่งผลให้กำไรของบริษัทฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หากไม่นับรวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว จะเห็นว่าในไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้ และ EBITDA จากการดำเนินงานเติบโต 14% และ 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่จำนวน 37,649 และ 8,353 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 352 ล้านบาท ในไตรมาส 1/67 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลเดินทางในทวีปยุโรป
อย่างไรก็ตามผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลง 46% จาก 647 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมหาภาคและภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม