HILITE: NEO พุ่ง 13% โตฝ่าเศรษฐกิจฝืดเกินโบรกคาด ผู้บริหารยันเป้าทั้งปี double digits

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 15, 2024 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

NEO พุ่ง 13.97% เพิ่มขึ้น 6.25 บาท มาที่ 51.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 436.93 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.06 น. จากราคาเปิด 47.50 บาท ราคาสูงสุด 52.00 บาท ราคาต่ำสุด 47.50 บาท

นายสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) ระบุว่า ไตรมาส 1/67 รายได้จากการขายรวม 2,472 ล้านบาท เติบโต 194 ล้านบาท หรือ 8.5% จากปีก่อนหน้า มาจากสินค้าหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กและผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำเด็กและผู้ใหญ่ และผลิตภัณฑ์โรลออน เป็นไปตามการวางกลยุทธ์มุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ต้นทุนจากการขายลดลง 3.9% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ปรับตัวลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/67 ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 1,136 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 27.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 46.0% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 39.0% ในปีก่อนหน้า

ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ สามารถรับรู้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90 ล้านบาท หรือ 49.5% จากปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.0% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 8.0% ในปีก่อนหน้า

"จากความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและมีคุณภาพระดับสากล บริษัทฯ ได้นำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นหลายรายการในช่วงต้นปีทีผ่านมา อาทิ ไฟน์ไลน์เอ็กซ์ตร้า เฟรช ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้น ซึ่งมาพร้อมกับ Malodor Control เทคโนโลยีกระจายกลิ่นหอม เมื่อเจออากาศร้อน เหงื่อและความชื้น จึงตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนได้อย่างดี นอกจากนี้ การบริหารจัดการวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้" นายสุทธิเดช กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/67 (อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย) ตามแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มรายได้ระดับกลาง-บนยังคงอยู่ในระดับที่ดี และจากสภาพอากาศในฤดูร้อนย่างเข้าฤดูฝน ผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ โคโลญ แป้ง และโรลออน คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนจะมีความคึกคัก

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ภาพรวมธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคยังมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นตามลำดับจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ จะส่งผลให้อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคเติบโตอย่างต่อเนื่อง และด้วยการวางกลยุทธ์การตลาดอย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 67 จะสามารถเติบโต Double Digits ได้ตามเป้าหมาย

นายสุทธิเดช เสริมต่อว่า ตลอดปี 67 นี้ NEO จะมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการนำความแข็งแกร่งของบริษัทที่ยึดหลักผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (Consumer Centric) และความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคในเชิงลึก (Consumer Insights) ผ่านการทำวิจัยตลาดอย่างเข้มข้นเพื่อเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมทั้งปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นอีก 50-100 รายการ

นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตจากตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/67 ได้บรรลุข้อตกลงกับผู้จัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมอีก 2-3 ประเทศ จากเดิม 16 ประเทศ และมีแผนโรดโชว์งานแสดงสินค้านานาชาติในอีกหลายประเทศ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ NEO หลังจากที่ไม่สามารถออกเดินทางไปต่างประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

อนึ่ง NEO ได้แตกไลน์แบรนด์ดีนี่ (D-nee) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัย (Silver Age) ภายใต้ซับแบรนด์ ดีนี่ ดีลักซ์ (D-nee Deluxe) โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ซักผ้า และครีมบำรุงผิวที่มีเทคโนโลยีระงับกลิ่นเฉพาะตัวของผู้สูงวัยแต่ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนโยน ทั้งนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เจาะกลุ่มผู้สูงวัย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ประกอบกับประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ