น.ส.ปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยถึงแผนขับเคลื่อนสู่ธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นหาโอกาสเพื่อการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ โดยปัจจุบันมีการจำแนกธุรกิจออกเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Diversified Investments ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ที่เน้นลงทุนสู่การเติบโตแบบเชิงรุกในระยะยาว ผ่านการลงทุนในธุรกิจดังต่อไปนี้
ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) บริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ภายใต้บริษัทย่อย Green RDF โดยล่าสุดได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยมีกำลังผลิตที่ 3,600 ตันต่อเดือน หรือเฉลี่ย 36,000 ตันต่อปีเมื่อช่วงมีนาคมที่ผ่านมา และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจากแหล่งอื่นๆ โดยจะมีความชัดภายในช่วงไตรมาส 3/67
ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยเตรียมแผน ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการให้บริการ เพื่อขยายฐานลูกค้าภายนอกเพิ่ม โดยตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะมีสัดส่วนการให้บริการจากลูกค้าภายนอกเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 37% โดยรองรับงานให้บริการขนส่ง ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีการให้บริการท่าเรือ, บริการขนส่งทางแม่น้ำ, บริการขนส่งทางรถบรรทุก, บริการโกดัง และ ลานกองเก็บ โดยปัจจุบันท่าเรือของบริษัทฯ ได้ผ่าน EIA (Environmental Impact Assessment) และได้รับใบอนุญาต สำหรับการให้บริการเรือขนาดเกิน 500 ตันกรอส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย "เอจีอี เวนเจอร์ หรือ AGEVT" คาดว่าจะได้ข้อสรุปแผนการลงทุนได้ในเร็วๆนี้ เพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่มรถไฟฟ้า (EV) สำหรับบริการปล่อยเช่าให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ และธุรกิจดีลเลอร์ขายรถไฟฟ้า EV เนื่องจากมองว่าตลาดรถ EV ยังมีดีมานด์การเติบโตสูงขึ้นในอนาคต
ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/67 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 3,390 ล้านบาท ลดลง 12.9% (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 3,214.1 ล้านบาท ลดลง 64.6% (YoY) และผลขาดทุนที่ 113.5 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายถ่านหินรวมในไตรมาสแรก ที่ 1 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นปริมาณการขายถ่านหินต่างประเทศที่ 0.1 ล้านตัน และปริมาณการขายถ่านหินในประเทศที่ 0.9 ล้านตัน จากเป้าทั้งปี 4.5 ล้านตัน
สำหรับรายได้รวมจากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ อยู่ที่ 431 ล้านบาท มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าภายนอกอยู่ที่ 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% (YoY) ส่วนการให้บริการของกลุ่มบริษัทในเครือ AGE มีรายได้ที่ 273 ล้านบาท จากการให้บริการขนส่งสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม โดยมีการให้บริการท่าเรือ, บริการขนส่งทางแม่น้ำ, บริการขนส่งทางรถบรรทุก, บริการโกดัง และลานกองเก็บ อย่างไรก็ตามปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 ปรับตัวลดลง มาจากการแข่งขันของตลาดในประเทศที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้สัดส่วนกำไร ปรับตัวลดลง