HILITE: NEX ร่วงติดฟลอร์ รับแรงขาย Force Sell หลังราคารูดต่อเนื่อง ผู้บริหารยันปัจจัยพื้นฐานดีไม่เปลี่ยน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 15, 2024 11:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาหุ้น NEX ร่วงลงมา 29.23% หรือลดลง 1.71 บาท มาที่ 4.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 626.11 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.31 น. จากราคาเปิด 5.70 บาท ราคาต่ำสุด 4.10 บาท ราคาสูงสุด 5.75 บาท

โดยราคาหุ้นปรับลงต่อเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ลงไป 13.15% ลดลง 1.15 บาท มาที่ 7.60 บาท และ วันที่ 14 พ.ค.ลงต่ออีก 23.03% ลดลง 1.75 บาท มาที่ 5.85 บาท ทำให้ 2 วันราคาลงไปแล้วกว่า 95%

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า ราคาหุ้น NEX ที่ปรับตัวลงมากเนื่องมาจากนักลงทุนถูกบังคับขาย (Force Sell) จากที่ short หุ้น NEX ทำให้คนอื่นที่ไม่ได้ถูก Force Sell เกิด Panic ขายออกมาด้วย

"ราคาหุ้นลงไปมาก มี Short sell มา 2 วัน แล้ว แต่ฝั่งผมก็ต้านไม่อยู่ เพราะเจอแรง Force Sell ของกลุ่มที่ใช้มาร์จิ้น" นายคณิสสร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX ระบุว่าปัจจัยพื้นฐานของบรัทยังดีอยู่ ยอดขายในไตรมาส 1/67 เติบโต 52% มาที่ 2,500 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิลดลงเหลือ 49.30 ล้านบาท หรือลดลง 68% จาก 152.08 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาแบตเตอรี่รถไฟฟ้า (EV) ปรับราคาลง ทำให้บริษัทต้องปรับราคาขายลงให้สอดคล้องกับตลาด ขณะที่บริษัทยังมีต้นทุนวัตถุดิบสูงอยู่ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ลดลง 4-5%

แต่ทั้งนี้ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 บริษัทมียอดขายรถ EV ล็อตใหม่ที่มีต้นทุนแบตเตอรี่ลดลง

นอกจากนั้น บริษัทอยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญาขายรถหัวลากไฟฟ้า จำนวน 1,000 คันกับลูกค้ารายใหญ่ คาดว่าจะสามารถลงนามได้ภายในไตรมาส 2/67 ช่วยเพิ่มรถที่ขายได้รอการส่งมอบ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่เกือบ 500 คัน

นายคณิสสร์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมองเห็นแนวโน้มการสั่งซื้อรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากหน่วยงานรัฐที่มีความต้องการใช้รถ EV สูงชึ้น ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีแผนจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 3,390 คัน , กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็เตรียมสั่งรถขนขยะไฟฟ้ากว่า 800 คัน คาดว่าจะมีการเปิดประมูลในไตรมาส 3/67

ขณะที่ NEX คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรถ EV จำนวน 5,000 คัน สร้างรายได้ราว 20,000 ล้านบาท จากปี 66 มีรายได้ 9,300 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/67 มียอดขายแล้ว 300 คัน และคาดว่ายอดขายไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะมียอดขายสูงสุดของปีเพราะมีการเร่งใช้งบประมาณ ขณะที่ในไตรมาส 1 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทั้งนี้ มั่นใจว่ากำไรสุทธิในปี 67 จะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาท

ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มหลายหน่วยงานรัฐรวมผู่ประกอบการเอกชนมีแนวโน้มที่จะหันมาใช้รถ EV เชิงพาณิชย์มากขึ้น ที่มีนโยบายจากรัฐบาลสนับสนุนการใช้รถ EV เชิงพาณิชย์ และสามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยไม่ได้กำหนดเพดาน อีกทั้งกระแสลดภาวะโลกร้อน ลดคาร์บอนก็ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและหันมาเลือกใช้ ถ EV

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ