RML ขอลุยต่อภายใต้แผนธุรกิจใหม่ลดต้นทุนเร่งหารายได้ประจำหลัง Q1/67 ขาดทุนพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 15, 2024 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

RML ขอลุยต่อภายใต้แผนธุรกิจใหม่ลดต้นทุนเร่งหารายได้ประจำหลัง Q1/67 ขาดทุนพุ่ง

บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/67 ด้วยยอดขาย (Presales) 173 ล้านบาท เป็นการรับรู้รายได้หลักจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 2 โครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ (The Estelle Phrom Phong) 4,850 ล้านบาท หรือประมาณ 98% ของจำนวนยูนิตพร้อมโอน และ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ (Tait Sathorn 12) 2,850 ล้านบาท หรือประมาณ 70%ของจำนวนยูนิตพร้อมโอน สะท้อนให้เห็นถึงกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ขณะที่ในไตรมาส 1/67 รายได้รวม 52.5 ล้านบาท ลดลง 25% จากไตรมาส 1/66 ที่มี 70.1 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 255.10 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 102.23 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายการขายและค่าใช้จ่ายการบริหารสูงขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของบริษัทมีมูลค่ารวม 1,273.1 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มี.ค.67

สำหรับไตรมาส 2 เตรียมรับกับความท้าทาย พร้อมลุยต่อภายใต้แผนธุรกิจใหม่ ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และหาโอกาสในการพัฒนา และบริหารจัดการโครงการเพิ่ม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

นายเบร็นตัน จัสติน มอเรลโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายหลายอย่างที่ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญ RML ยังคงสามารถสร้างรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ ?ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์? ที่ได้ปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว และมีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง และ ?เทตต์ สาทร ทเวลฟ์? ก็ได้มียอดโอนกรรมสิทธ์ที่ดีเช่นกัน

สำหรับการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2 ต่อจากนี้ RML จะทยอยรับรู้รายได้จากทั้ง 2 โครงการซึ่งตั้งเป้าโอนกรรมสิทธิ์ 100% เต็มภายในปีนี้ รวมถึงเพิ่มการรับรู้รายได้ประจำ ผ่านการสรรหาผู้เช่ามามาเติมเต็ม ?โอซีซี? อาคารสำนักงานลักชัวรี่ เกรด A+ ที่สูงที่สุดในไทย เสริมด้วยการเพิ่มยอดขายโครงการใหม่ โดยเป็นโครงการแนวราบอัลตร้าลักชัวรี่ rare item ที่ได้รับการออกแบบอย่างหรูหราแบบที่ไม่เคยมีนำเสนอในตลาดมาก่อน ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์สุดหรูในทุกมิติ ตั้งอยู่บนทำเลที่ตั้งอันเป็นที่สุดของไพรม์โลเคชั่นของกรุงเทพฯ อย่างพร้อมพงษ์-ทองหล่อ ด้วยราคาขายเฉลี่ยคฤหาสน์หลังละ 500?700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขายได้ในครึ่งหลังของปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ เน้นสร้างความมั่นคงและรากฐานที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ