นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai รับ บมจ. ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "LTS" ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567
LTS ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่าย ออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง ในรูปแบบ smart pole, smart home automation โดยการออกแบบระบบส่องสว่างได้นำรูปทรงสถาปัตยกรรมของอาคารมาเป็นแนวความคิดในการออกแบบเพื่อให้เกิดความงดงามและมีเอกลักษณ์ประจำอาคาร หรือการรับติดตั้งระบบส่องสว่างให้แก่อาคารที่อยู่อาศัยทั้งบริเวณภายในและภายนอกอาคาร เช่น ห้างสรรพสินค้า คอนโด รีสอร์ต และโรงแรม เป็นต้น รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายแบบค้าส่งและค้าปลีก และในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทได้เพิ่มธุรกิจ IT Solutions เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดรับกับอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) โดยในปี 2566 โครงสร้างรายได้จำแนกตามกลุ่มลูกค้า ได้แก่ 1) กลุ่มผู้รับเหมาหรือสถาปนิก 2) กลุ่มลูกค้าโครงการรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและเอกชน 3) กลุ่มค้าส่งและค้าปลีก และ 4) ธุรกิจใหม่ ในสัดส่วนร้อยละ 50 : 41 : 8.6 : 0.4 ตามลำดับ
LTS มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 103.30 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 151.60 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 55 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 46.2 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 4.4 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 4.4 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 9, 10 และ 13 พฤษภาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 165 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 619.80 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 19.72 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิงวดปี 2566 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.1521 บาท โดยมีบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายภัฎ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LTS เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจมากว่า 14 ปี โดยมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมในการช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์ให้กับทุกกลุ่มลูกค้าของบริษัท สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนในตึกออฟฟิศ Showroom โกดังสินค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ smart pole โครงการ smart city และ โครงการ smart street light เป็นต้น
LTS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ นายภัฎ ตรัสโฆษิต ถือหุ้น 38.52% นายกิตติพงษ์ วิมลโนช ถือหุ้น 22.38% และนางสาวสุวิมล เชาวนโยธิน ถือหุ้น 6.60% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินบริษัทภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย