SET ปิดเช้านี้ที่ 1,379.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.61 จุด (+0.12%) มูลค่าซื้อขายราว 20,079 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นได้ดีกว่าภูมิภาค รับแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เก็งผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/67 ไปแล้ว ช่วยประคองตลาดยืนบวกได้ อีกทั้งบาทแข็งค่าหนุนเม็ดเงินต่างชาติเข้า ช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งบวกได้ต่อ ให้กรอบแนวต้าน 1,384 จุด และ แนวรับ 1,375 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,379.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.61 จุด (+0.12%) มูลค่าซื้อขายราว 20,079 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งตัวขึ้นทำระดับสูงสุด 1,384.56 จุด และต่ำสุด 1,376.79 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นได้ดีกว่าภูมิภาคเล็กน้อย โดยตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบหลังจากปรับขึ้นมาหลายวันและยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา
ขณะที่ตลาดบ้านเรา เงินบาทแข็งค่าเร็วมาที่ 36.20 บาท/ดอลลาร์หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด ทำให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามามากขึ้น และเกิดแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากมองว่าผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1/67 ไปแล้ว โดยเฉพาะ HANA, KCE ส่วน DELTA ก็ยังมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่อง คาดผลดีที่ไมโครซอฟท์สนใจลงทุน Clound และ Data Center ในไทย
ช่วงบ่ายคาดว่าตลาดแกว่งในแดนบวกได้จากแรงเก็งกำไรกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ช่วยประคองตลาด แต่ยังต่องรอติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 1/67 ของไทยที่จะประกาศในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดอยู่ในโทนต่ำ แต่ก็รับรู้ไปมากแล้ว ถ้าออกมาตามนั้นก็ไม่น่าจะลงไปมาก
ให้กรอบแนวต้าน 1,384 จุด และ แนวรับที่ 1,375 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 869.25 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 713.72 ล้านบาท ปิดที่ 76.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
NEX มูลค่าการซื้อขาย 693.37 ล้านบาท ปิดที่ 5.25 บาท ลดลง 0.05 บาท
HANA มูลค่าการซื้อขาย 645.83 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
LH มูลค่าการซื้อขาย 432.88 ล้านบาท ปิดที่ 6.80 บาท ลดลง 0.05 บาท