นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ คาดว่ามีโอกาสแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าตลาดแรงงานที่มีเสถียรภาพของสหรัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาส 68% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบการประชุมของเดือน ก.ย.นี้ ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด
ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม อาทิ วันนี้ (21 พ.ค.) FETCO -สมาคม บลจ.-ก.ล.ต.นัดหารือข้อสรุปเกี่ยวกับรูปแบบกองทุน LTF ที่จะรื้อฟื้น สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันที่ 22 พ.ค. สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือน เม.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เมื่อวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.(เช้าวันที่ 23 พ.ค.), วันที่ 23 พ.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนเม.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.
แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณดัชนี MSCI Rebalance มีผล 31 พ.ค. นี้ Global Standard หุ้นเข้าไม่มี หุ้นออก ได้แก่ BTS, LH และ MTC ส่วน Global Small Cap หุ้นเข้า ได้แก่ BTS, JTS, LH, MTC หุ้นออก (ที่ต้องระวังแรงขายปรับลดน้ำหนัก) ได้แก่ BLAND, DITTO, FORTH, KSL, MAJOR, PSL, RS, SGP, SPCG, WHAUP
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้แนะนำติดตามยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ ดัชนีภาคบริการสหรัฐ และรายงานการประชุม FED หากตัวเลขอยู่ในทิศทางปรับตัวลงจะเป็นบวกต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคที่สร้างฐานเหนือ 2,350 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ และมีจุดขายทำกำไรที่แนวต้าน 2,430 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์