นายไมเคิล เดวิด มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) กล่าวว่า แนวโน้มในช่วงไตรมาส 2/67 และไตรมาส 3/67 แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วง Low season ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยและมัลดีฟส์ที่จะชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/67 แต่ SHR มีการกระจายพอร์ตโรงแรมในอังกฤษ ฟิจิ และมอริเชียส ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงกลางปีนี้ ทำให้สามารถเข้ามาช่วยชดเชยโรงแรมในประเทศไทยและมัลดีฟ์ได้
โดยยอดจองห้องพักในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะโรงแรมในอังกฤษ ฟิจิ และมอริเชียส สะท้อนให้เห็นถึงการท่องเที่ยวที่ยังคงดีต่อเนื่อง ประกอบกับโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่ คือ SO/ Maldives ยังคงเห็นอัตราการเข้าพักสูงถึง 50% ซึ่งคาดว่าโรงแรม SO/ Maldives จะมีอัตราการเข้าพักในปีนี้ที่ 50-55% และจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ ก่อนที่จะเริ่มมีกำไรในปี 68
นอกจากนี้บริษัทยังใช้กลยุทธ์ช่องทางการขายให้สามารถเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพใหม่ๆมากขึ้น และกลยุทธ์การตั้งราคาแบบเฉพาะเจาะจงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการโรงแรม และบริการต่างๆในโรงแรมของ SHR มากขึ้นต่อเนื่อง และทำให้บริษัทสามารถเพิ่มอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยได้สูงขึ้นมาที่ 11,000 บาท/คืน มากกว่าที่ตั้งไว้ที่ 7,100 บาท/คืน และทำให้ EBITDA marigin ของบริษัทสามารถปรับเพิ่มขึ้นไปใกล้เคียงเป้าหมายที่ 20-25% ได้ และมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.1 หมื่นล้านบาท
สำหรับการลงทุนใหม่ของบริษัทปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาการทำ M&A โรงแรมในโซนเอเชียแปซิฟิก และเมดิเตอร์เรเนียน 1-2 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 แห่งในปีนี้ โดยโรงแรมที่บริษัทจะเข้าลงทุนต้องสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทได้ทันที่ และมีผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 12-15% โดยมีจำนวนห้องพักไม่ต่ำกว่า 100 ห้อง ซึ่งในส่วนของงบลงทุนจะใช้ส่วนหนึ่งของงบลงทุนในปีนี้ที่ 1-1.5 พันล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุน