SABINA มองแนวโน้ม Q2/67 สดใสต่อเนื่องหนุนรายได้ทั้งปีเข้าเป้า ลุยหนักตลาดฟิลิปปินส์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 21, 2024 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซาบีน่า (SABINA) กล่าวว่าแนวโน้มกำลังซื้อในประเทศไตรมาส 2/67 ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ยังเติบโตได้ โดยรูปแบบและช่องทางการใช้จ่ายเปลี่ยนไป ดังนั้นกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่ม แต่ละช่องทางอาจจะต้องเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามภาพรวมไตรมาส 2/67 ผลการดำเนินงานยังคาดว่าจะใกล้เคียงกับแผนที่วางไว้ และมั่นใจว่ารายได้ทั้งปี 67 จะเติบโต 5-10% ตามเป้า

อนึ่ง SABINA แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิ 122.75 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.35 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 117.27 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.34 บาท

นางสาวดวงดาว กล่าวอีกว่า สำหรับการทำการตลาดในฟิลิปปินส์ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารวมทั้งเตรียมสินค้าให้พร้อมกับการเติบโต ซึ่งโอกาสในการขยายกลุ่มลูกค้ายังมีอีกมาก โดยปัจจุบันมีหน้าร้านในฟิลิปปินส์ทั้งหมดประมาณ 30-40 ร้านค้า ซึ่งค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณประชากรที่มากกว่าไทยเท่าตัว ทั้งนี้บริษัทเริ่มเข้าไปทำการตลาดเมื่อไตรมาส 2/66 และเชื่อว่าภายในไตรมาส 4/67 การปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายและช่องทางการขาย รวมทั้งการดำเนินงานต่าง ๆ น่าจะเข้าที่เข้าทาง

ขณะที่นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ที่จะเริ่มเดือนต.ค. นี้ ซึ่งจะกระทบ Cost of Goods Sold (COGS) หรือ ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้น 14% แต่บริษัทได้เตรียมตัวป้องกันผลกระทบดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 66 โดยบริษัทใช้วิธีชะลอการรับบุคลากรเพิ่มหลังจากที่มีพนักงานลาออก ซึ่งเมื่อเทียบปลายไตรมาส 3/66 กับไตรมาส 3/67 ที่จะมีการขึ้นค่าแรง บริษัทคาดว่าจะมีพนักงานลดลง 292 คน ประหยัดต้นทุนค่าแรงราว 3 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้พนักงานที่ยังทำงานอยู่ก็จะมีรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้นและสามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น

ส่วนประเด็นสินค้าจากจีนที่เข้ามาตีตลาดในไทย นางสาวดวงดาว กล่าวว่า มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ โดยทางบวกเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ซึ่งบริษัทมั่นใจในจุดแข็งของตัวเองทั้งการเข้าถึงลูกค้าและการให้บริการ แม้ลูกค้าจะลังเลไปซื้อสินค้าแบรนด์อื่นบ้างแต่ไม่ได้กระทบอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ข้อเสียคือบางครั้งสินค้านำเข้าอาจสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับลูกค้าในบางช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ทำให้ลูกค้าอาจจะปฏิเสธการซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางเหล่านี้ อย่างไรก็ตามมองว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้รุนแรงกระทบกับยอดขายของบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ