นายพิชัย ปัญจสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 18.92 ล้านบาท พลิกจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5.38 ล้านบาท
ขณะที่มีรายได้รวม 131.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 61.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 87.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 70.01 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 77.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.55% เนื่องจากสินค้ากลุ่มจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 21.34 ล้านบาท และสินค้ารองเท้ากีฬาเพิ่มขึ้น 9.37 ล้านบาท รวมทั้งมีรายได้จากเหมืองขุดบิทคอยน์ 5.02827921 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 9.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.99 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 1,198.67% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาเหรียญบิทคอยน์มีคาราสูงขึ้น บริษัทจึงเปิดเครื่องขุดเหรียญเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล 19.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวน เมื่อเปรียบทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้อื่น โอนกลับผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เงินดิจิทัล 19.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคามูลค่ายุติธรรมวัดจากราคาปิด ณ วันสิ้นงวด วันที่ 31 มีนาคม 2567 สูงกว่าราคาปิด ณ วันสิ้นงวดของงวดก่อน
สำหรับแผนธุรกิจปี 67 มุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปรับกลยุทธ์รองรับความท้าทาย พร้อมเป็น Holding Company ที่กระจายการลงทุนในธุรกิจหลากหลาย และสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน AJA ประกอบธุรกิจ 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ธุรกิจจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (AJ EV BIKE) จักรยานไฟฟ้า รวมถึงการให้เช่า จำหน่ายและให้บริการแบตเตอรี่ 2. ธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยด์ (Bitcoin Mining) และการลงทุนในสินทรัพย์ 3. ธุรกิจร้านค้าภายใต้แบรนด์ Outlet Pro จำหน่ายรองเท้ากีฬา ชุดกีฬา และอุปกรณ์ กระเป๋าอื่นๆ 4. ธุรกิจการเป็นตัวแทน และให้บริการสมาชิกอาลีบาบา (Alibaba) ในประเทศไทย 5. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์เคมี ภายใต้ชื่อบริษัท เอเจ เอกเกษตร จำกัด (AJK) และ6. ธุรกิจอื่นๆที่ต่อยอดโอกาสในอนาคต