(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งผันผวนตามภูมิภาค กังวลเฟดลดดอกเบี้ยช้า-เกาะติดศาลรธน.

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งผันผวนตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ หลังตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษออกมาสูงกว่าคาด ขณะที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนนี้ เฟดยังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐ ที่ปรับตัวลงช้า ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามตลาดต่างประเทศ ยังได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของบริษัท อินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ ออกมาดีกว่าคาด

นอกจากนี้นักลงทุนยังรอติดตามศาลรัฐธรรมนูญ จะรับคำร้องหรือไม่ กรณี 40 สว. เข้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งให้นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในช่วงบ่ายวันนี้

ให้แนวรับที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (22 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,671.04 จุด ลดลง 201.95 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,307.01 จุด ลดลง 14.40 จุด หรือ -0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,801.54 จุด ลดลง 31.08 จุด หรือ -0.18%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,149.88 จุด ลดลง 8.66 จุด หรือ -0.27% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 19,024.41 จุด ลดลง 171.19 จุด หรือ -0.89% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,803.13 จุด เพิ่มขึ้น 186.03 จุด หรือ +0.48%
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 พ.ค.) 1,370.83 จุด ลดลง 7.87 จุด (-0.57%) มูลค่าซื้อขาย 38,402.65 ล้านบาท
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,140.73 ล้านบาท (21 พ.ค.)
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (22 พ.ค.) ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 77.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 พ.ค.) อยู่ที่ 3.45 เหรียญ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 36.50 อ่อนค่า กลับมากังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด เกาะติดตัวเลขส่งออกไทย
• สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)-สำนักงานก.ล.ต. เห็นชอบแพ็กเกจ Tax Saving Fund ตามแนวทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) หรือ สมาคมบลจ. มั่นใจเป็นแนวทางที่ดีสุด ใช้เกณฑ์ใกล้เคียงกับกองทุน LTF เน้นลงทุนหุ้นไทย 100% และสอดคล้องกับความเห็นของ "พิชัย" รมว.คลัง เตรียมขอเข้าพบขุนคลังทันที จับตาเงินไหลเข้าตลาดหุ้นต่อปี 7-8 หมื่นล้านบาท หุ้นกลุ่ม SET50 รับผลเชิงบวก และกลุ่มที่มีสถานะขาย Short แต่ยังไม่ซื้อคืนหุ้นมากกว่า 1.0% ของจำนวนหุ้นชำระแล้ว เช่น HANA KCE BBL KBANK และ MINT
• วันนี้ (23 พ.ค.) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับ (หรือไม่รับ) คำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ "เศรษฐา" โบรกฯ ชี้ระยะสั้นตลาดหุ้นผันผวน พร้อมยกเคส "พล.อ.ประยุทธ์" ที่เคยหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เชื่อไม่กระทบการทำงานรัฐบาล
• เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ขยายตัว 1.5% แม้จะสูงกว่านักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์และทำให้เศรษฐกิจไทย ไม่เจอกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) แต่ "อาการ" ที่เป็นปัญหาเรื้อรังของเศรษฐกิจไทยยังเป็นประเด็นเศรษฐกิจเติบโตต่ำ
• รฟท.เตรียมเสนอบอร์ด วันนี้ (23 พ.ค.) แก้ไขสัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน ผ่าทางตันเงื่อนไข NTP หวังใช้เจรจา ซีพี. ตัดเงื่อนไขขอส่งเสริมบีโอไอออก หลังหมดเวลาครั้งที่ 3 เมื่อ 22 พ.ค.67 แต่ยังไม่คืบหน้า เหตุเจรจาไม่ลงตัวติดเงื่อนไขเดียวแค่ขอสิทธิ์บีโอไอ คาดเร่งชงบอร์ดอีอีซี และ ครม.แก้สัญญาร่วมทุน เริ่มก่อสร้างในปีนี้ เลขาฯ บอร์ดอีอีซีระบุ รฟท.-ซีพี ต้องตัดเงื่อนไขบีโอไอออกก่อน และเอกชนสามารถขอโดยตรงจากอีอีซีได้ภายหลัง
• ธปท. เปิดยอดลูกหนี้ "เข้าขายเป็นหนี้เรื้อรัง" และ "เป็นหนี้เรื้อรัง" รวมกว่า 1.8 ล้านบัญชี วงเงินรวม 7.4 หมื่นล้าน โดยแบ่งเป็นลูกหนี้ที่กำลัง เป็นหนี้เรื้อรัง 1.33 ล้านบัญชี และ เป็นหนี้เรื้อรังแล้ว 4.8 แสนบัญชี ชี้หากยอดเข้าร่วมโครงการต่ำ เตรียมสุ่ม คุย "ลูกหนี้" และหารือ "แบงก์" เพื่อปรับมาตรการให้เหมาะสมมากขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• DELTA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 79 บาท คาดได้ Sentiment เชิงบวกจากหุ้น NVDIA บริษัทรายงานกำไรปกติ ไตรมาส 1/2567 ที่ 3.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 10%YoY แต่ลดลง 21% QoQ จากการประชุมนักวิเคราะห์ บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 10-20% YoY เราชื่อว่ากำไรน่าจะต่ำสุดในไตรมาส 1/67 และคาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 2/67 จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและ GPM ที่ดีขึ้น แต่ก็มองเห็นแนวโน้มกรเติบโตที่ลดลงในธุรกิจ mobility (ชิ้นส่วน EV) จากการเติบโตของยอดขาย EV ที่ชะลอตัวทั่วโลกและการแข่งขันด้านราคา
• KCG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 12.80 บาท เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ขึ้น 5% เป็น 365 ลบ. +19%y-y สะท้อนกำไรไตรมาส 1/67 ที่ออกมาดีกว่าคาด ผ่านการปรับ Margin ขึ้นเล็กน้อย ระยะสั้นคาดโมเมนตัมกำไรไตรมาส 2/67 คาดว่ายังดีต่อเนื่องทั้ง q-q และ y-y ต้นทุน Butter Oil ที่ปรับขึ้น 15% YTD ยังไม่กระทบต่อ Margin เนื่องจากมีการล็อคราคาในระดับต่ำไว้แล้วสำหรับบงวดครึ่งแรกปี 67 ส่วน ครึ่งหลังปี 67 แม้ต้นทุนจะขยับขึ้นบ้าง แต่คาดการเปิด Logistic Park จะช่วยลดต้นทุนชดเชยผลกระทบและทำให้รักษาระดับ Margin ได้
• SAPPE (เคจีไอ) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 116.30 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ บริษัทเผยรายได้มีแนวโน้มเติบโต 20-25% ตามเป้าหมายปี 2567 จากการขยานตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราคาดว่า SAPPE จะทำกำไรสุงเป็นสถืติใหม่ในไตรมาส 2/67 ถึงแม้ตัวเลขส่งออกแข็งแกร่งในปี 2565-2566 (+57% , +39%) แต่ SAPPE ยังคงหาช่องทางการขยายตัวในต่างประเทศผ่าน Modern trade chain