หุ้น VGI บวก 3.75% มาอยู่ที่ 1.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท เมื่อเวลา 11.00 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.62 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.67 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.60 บาท
บมจ.วีจีไอ (VGI) แจ้งผลประกอบการงวดปี 66/67 (เม.ย.66-มี.ค.67) ขาดทุนสุทธิ 3,489 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนบริษัทร่วม 735 ล้านบาท บันทึกขาดทุนจากการขายหุ้น บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) จำนวน 2,363 ล้านบาท และ บันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนใน บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) และบริษัทร่วมอื่นๆ
ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการให้บริการและการขายทั้งหมด 4,813 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนจากรายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณา 44% เพิ่มขึ้นจาก 40% สัดส่วนรายได้จากธุรกิจการให้บริการด้านดิจิทัล 32% เพิ่มขึ้นจาก 29% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่าย 24% ลดลงจาก 31% ด้านรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายลดลง 23.1% รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาและธุรกิจการให้บริการด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น 8.7%และ 8.5% ตามลำดับ ดังนั้น บริษัทมีรายได้รวมลดลงเล็กน้อย หรือลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
VGI ยังชี้แจงว่า แผนดำเนินงานในปี 67/68 (เม.ย. 67-มี.ค.68) มีกลยุทธ์มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพด้วยการให้ความสำคัญกับธุรกิจร่วมที่มีอยู่มากกว่าการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ บริษัทได้วางงบค่าใช้จ่ายลงทุน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกใช้ในธุรกิจสื่อโฆษณาะ 50% ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล 20% และ ธุรกิจการจัดจำหน่าย 30%
บริษัทคาดรายได้ของงวดปีนี้จะอยู่ที่ 6,000-6,500 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญทั้งในด้านการดำเนินงาน และผลประกอบการโดยรวม โดยจะได้แรงหนุนจากความต้องการในสินค้าและบริการของบริษัทที่เพิ่มขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าจะใช้โอกาสอันดีนี้ในการสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
*บอร์ดเคาะแผนลดขาดทุนสะสม-ออกหุ้นเพิ่มทุนขาย PP
VGI ยังแจ้งผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 มีมติอนุมัติโอนทุนสำรองตามกฎหมายและส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ทั้งนี้ สิ้นสุดเดือน มี.ค.67 บริษัทมีขาดทุนสะสม 2,285.38 ล้านบาทในงบการเงินรวม และบริษัทมีขาดทุนสะสม 1,107.13 ล้านบาทในงบการเงินเฉพาะกิจการ
พร้อมกันนั้น คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนแบบมอบอำนาจทั่วไป 55,900,000 บาท จากเดิม 1,377,786,787.80 บาท เป็น 1,433,686,787.80 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 559,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อออกและเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยมีแผนที่จะใช้เงินเพิ่มทุนเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือ เพื่อการชำระคืนหนี้เงินกู้และ/หรือ เพื่อการขยายการลงทุนของบริษัทฯ และบริษัทย่อย