SET ปิดเช้าวันนี้ 1,365.01 จุด ลดลง 1.36 จุด (-0.10%) มูลค่าซื้อขายราว 16,754 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นเช้านี้เคลื่อนไหวกรอบแคบ หุ้นที่ฟื้นตัวได้ดีเป็นกลุ่มอิงเศรษฐกิจภายนอก ทั้งกลุ่มเดินเรือ-กลุ่มเครื่องดื่มที่เน้นส่งออก และหุ้นที่ผลประกอบการแข็งแกร่ง ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า-กลุ่มสื่อสาร แต่ปัจจัยภายนอกยังผันผวนจากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางในแต่ละประเทศเริ่มต่างกัน ขณะที่ในประเทศยังถูกกดดันจากประเด็นการเมือง แนวโน้มช่วงบ่ายคาดดัชนีแกว่งตัวต่อ ให้กรอบแนวรับ 1,363 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,365.01 จุด ลดลง 1.36 จุด (-0.10%) มูลค่าซื้อขายราว 16,754 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยทำระดับสูงสุด 1,368.95 จุด และต่ำสุด 1,363.73 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า เช้านี้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยหุ้นที่ฟื้นตัวได้ดีเป็นหุ้นที่อิงเศรษฐกิจภายนอก อาทิ กลุ่มเดินเรือ ได้อานิสงส์จากค่าระวางเรือปรับสูงขึ้น และกลุ่มเครื่องดื่มที่เน้นส่งออก รวมถึงหุ้นที่ผลประกอบการแข็งแกร่ง ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้าและสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้ายังมีความผันผวนจากทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศสำคัญเริ่มแตกต่างกัน โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. นี้ แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้วจะตรึงอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13 มิ.ย. นี้
สำหรับปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันจากกรณี่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตีความคุณสมบัตินายกฯของนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 ประเด็นดังกล่าวกดดันหุ้นที่เกี่ยวข้องการการบริโภค
นอกจากนี้ ยังคาดว่าตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสซึมตัวลงจากการปรับพอร์ต MSCI Rebalance ที่จะมีผลวันที่ 31 พ.ค. นี้
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดดัชนีแกว่งตัวบวก-ลบราว 3 จุด โดยให้กรอบแนวรับ 1,363 จุดและแนวต้าน 1,370 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,162.14 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 650.20 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 506.30 ล้านบาท ปิดที่ 19.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 500.30 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 458.13 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท