RATCH โรงไฟฟ้า "ไพตัน" หนุน Q2/67 โต ลุยปิด 6 ดีลโรงไฟฟ้าในปีนี้กำลังผลิตรวม 550 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 28, 2024 13:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 จะเติบโตจากไตรมาส 1/67 เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาหลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติหลังปิดซ่อมบำรุงตามแผนไปในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่บริษัทจะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,045 เมกะวัตต์ ในอินโดนีเซีย เดือนพ.ค.นี้ หลังประสบความสำเร็จในการเข้าลงทุนตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทคาดว่าจะรับรู้กำไรราวปีละ 2,000 ล้านบาท

การดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตอีก 700 เมกะวัตต์/ปี ผ่านการเข้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีการดำเนินการเชิงพาณิชย์อยู่แล้ว (COD) โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในเวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย รวมทั้งสิ้น 6 ดีล คิดเป็นกำลังการผลิตรวมราว 550 เมกะวัตต์ คาดว่าจะปิดดีลทั้งหมดได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังมองการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรเดิม ไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์

ส่วนการลงทุนในธุรกิจ Non-Power บริษัทมีแผนจับมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านระบบโลจิสติกส์ ทั้งประเภทรางและรถในประเทศไทย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ รวมถึงเริ่มศึกษาการร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน และออสเตรเลีย ในธุรกิจพลังงานอนาคต เช่น โครงการพัฒนาเชื้อเพลิงไฮโดรเจน, โครงการกักเก็บพลังงาน/แบตเตอรี่, เทคโนโลยีการดัก การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CUS) รวมถึงระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ อีกทั้งยังคงมองหาการร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศไทยในธุรกิจบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

บริษัทยังคงงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการ M&A เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 30% ในปี 70 จากปัจจุบันอยู่ที่ 26% ผ่านการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ไทย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และลาว

ปัจจุบัน บริษัทมีการลงทุนโครงการในประเทศไทย ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น โดยมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลงทุนแล้ว 10,817.25 เมกะวัตต์ โดยเป็นกำลังการผลิตที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ 9,007.29 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง กำลังการผลิตอยู่ที่ 1,809.96 เมกะวัตต์ เป็นกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนประมาณ 1,392.78 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 76.95% โดยคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปีนี้ 66.36 เมกะวัตต์ ขณะที่เหลือจะทยอย COD ต่อเนื่องได้จนถึงปี 76 เช่น โครงการ Solar Farm โครงการ Ben Tre WF โครงการรถโมโนเรลสีชมพูส่วนต่อขยาย มอเตอร์เวย์M6&M81 โครงการ Sibundong โครงการ Sekong เป็นต้น

นายนิทัศน์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 67 เติบโตมากกว่า 5% จากปีก่อนอยู่ที่ 14,124 ล้านบาท ตามการรับรู้ส่วนกำไรจากการลงทุนธุรกิจโรงพยาบาล, โรงไฟฟ้าในเวียดนามทยอยรับรู้ผลการดำเนินงานเข้ามา และโครงการรถไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินการแล้ว อีกทั้งรับรู้ผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตันในอินโดนีเซียเข้ามาด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ