นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ย่อตัวลง หลังตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 2 ปี และ 5 ปี มีดีมานด์ต่ำกว่าคาด สะท้อนผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอ่อนแอลง หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์
ทั้งนี้มองตลาดบ้านเรา จะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกลุ่มโอเปกพลัส จะยังคงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2.2 ล้านบาร์เรล/วันโดยสมัครใจ ในการประชุมวันที่ 2 มิ.ย.นี้ คาดว่าจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน และช่วยโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ให้แกว่งไซด์เวย์
ให้แนวรับที่ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,852.86 จุด ลดลง 216.73 จุด หรือ -0.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,306.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ +0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,019.88 จุด เพิ่มขึ้น 99.09 จุด หรือ +0.59%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,108.03 จุด ลดลง 1.54 จุด หรือ -0.05% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 18,659.41 จุด ลดลง 161.75 จุด หรือ -0.86% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,880.50 จุด เพิ่มขึ้น 25.13 จุด หรือ +0.06%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 พ.ค.) 1,362.70 จุด ลดลง 3.67 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 33,884.77 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,663.56 ล้านบาท (28 พ.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 2.71% ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 พ.ค.) อยู่ที่ 3.00 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.64/65 แนวโน้มอ่อนค่า ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐปลายสัปดาห์นี้
- "ทักษิณ"ยื้อ ส่งทนายความขอเลื่อนนัดอัยการฟังคำสั่งฟ้องคดี ม.112 วันนี้ออกไปก่อน อ้างติดโควิด-19 คปท.ผนึก ศปปส. และกองทัพธรรม บุกยื่นอัยการ สั่งฟ้องผิด ม.112 ขออย่าทำให้เกิดข้อครหา ช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์ "ทวี" เผยอัยการเป็นอิสระในการพิจารณาคดี การประกันตัวเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ชี้หากคดียังไม่ถึงที่สุด สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ระบุเตรียมแก้กฎกระทรวง ผู้ต้องหายังไม่ตัดสินถึงที่สุด ไม่จำเป็นต้องถูกคุมขัง
- "นักเศรษฐศาสตร์" ประสานเสียง หั่น "จีดีพี" ลงระนาว ชี้ "เศรษฐกิจไทย" ยังมีความเปราะบางสูง ล่าสุด "อีไอซี" ปรับเหลือ 2.5% จาก 2.7% หลังมองเศรษฐกิจมีสัญญาณแผ่วลง ด้าน "กรุงไทย" หั่นจีดีพีต่ำสุดเหลือ 2.3% ขณะที่ "เคเคพี" ยังไม่ปรับ แต่มีมุมมองเศรษฐกิจเผชิญ "ความเสี่ยงสูงขึ้น" ลั่นสถานการณ์เศรษฐกิจที่เติบโต "แตกต่าง" กัน ส่งผลกระทบต่อ "โรงงานอุตสาหกรรม" ปิดตัวแล้ว 1,700 แห่ง
- "อู่ตะเภา" ปักหมุด สนามแข่งฟอร์มูลาวัน "ยูทีเอ" คาดเปิดเฟสแรก ปี 2571 สร้างรอบสนามบิน ออกแบบให้แข่งขันรถได้หลายประเภท ยืนยันไม่กระทบความปลอดภัยอยู่นอกเขตการบิน ดันสนามบินแรกของโลกมีสนามแข่งรถ "เศรษฐา" สั่งเร่งทำแผนฟอร์มูลาอี แข่งรถไฟฟ้าควบคู่ ดึงท่องเที่ยวรายได้สูง สกพอ.ชี้ต้องปรับแผนศูนย์ซ่อมเครื่องบินขยับพื้นที่รองรับสนามแข่งรถ
- ภาพรวมการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 พ.ค. 2567 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งสิ้น 14,326,507 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 682,975 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน จำนวน 2,831,662 คน มาเลเซีย จำนวน 1,909,740 คน รัสเซีย จำนวน 836,868 คน อินเดีย จำนวน 810,513 คน และเกาหลีใต้ จำนวน 785,600 คน
- "คลัง" เตรียมเข็นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ล็อต 2 ขีดเส้น 2 สัปดาห์ชัดเจน มองเม็ดเงินลงทุนอสังหาริมทรัพย์ช่วยกระทุ้งเศรษฐกิจไทยโต หวังเข็นจีดีพีไตรมาส 2-3/67 ฟื้น แจงเดินเครื่องรับฟังความคิดเห็นยกเครื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้
- รัฐบาลระดมจัด "แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ" เสริมสารพัดมาตรการควบคู่ "แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท" เดินหน้าเร่ง "ทะลวงเบิกจ่ายงบฯลงทุน-เติมสภาพคล่อง SMEs" ครม.อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 ระยะ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มวีซ่าฟรีจากเดิม 57 ประเทศ เป็น 93 ประเทศ เปิดเงื่อนไขรับผู้สูงอายุต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาว พร้อมเพิ่มวีซ่าประเภทใหม่ดึงทาเลนต์ "KKP" หนุนเร่ง "เบิกจ่ายงบฯ-สินเชื่อ" แต่ต้องไม่ลืมแก้โจทย์ระยะยาว เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
- คลังลั่นจับมือธปท.ออกมาตรการยืดหนี้ให้แก่ประชาชน หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ชี้แบงก์พาณิชย์เน้นปล่อยกู้รายใหญ่ไม่สนรายเล็ก ดันสินเชื่อรายใหญ่โต 3.3% แต่เอสเอ็มอีติดลบ 5.1% เตรียมเพิ่มบทบาทดันบสย.ค้ำประกัน เดินหน้าดึงเงินนอกงบประมาณออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ
*หุ้นเด่นวันนี้
- AP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 12.3 บาท เก็งกำไรตามกระแสข่าวภาครัฐเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาฯ โดยเราเลือก AP มาเป็นหุ้นแนะนำเนื่องจาก AP เป็นหุ้น toppick ในกลุ่มอสังหาฯที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งที่สุด ผลประกอบการไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มเร่งตัวจากการเปิดโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีคอนโดสร้างเสร็จเตรียมโอนอีก 2 แห่ง ด้านราคาหุ้นก็มี upside ต่อราคาเป้าหมายค่อนข้างมาก อีกทั้งให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7.8%
- STA (กรุงศรี) "Trading Buy" ราคาเป้าหมาย 20.4 บาท เรามีมุมมองบวกจากประชุมนักวิเคราะห์ และปรับคำแนะนำเป็น Trading Buy STA ปรับ TP 24F มาที่ 20.40 บาท และ TP 25F ที่ 23.40 บาท เราชอบความโดดเด่นในการเข้าหาตลาดยาง EUDR ที่ไทยมีศักยภาพของวัตถุดิบยาง EUDR และ STA เป็นผู้ผลิตยางที่มีระบบข้อมูลเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตยางล้อยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าเดิมของ STA อยู่แล้ว ทั้งนี้ราคายาง EUDR จะสูงกว่าราคายางธรรมดาราว 14% และ STA ตั้งเป้าสัดส่วนขายยาง EUDR 10% ของปริมาณขายในเดือนกค และเพิ่มเป็น 50% ในเดือนธค 67 ทำให้แนวโน้มการเติบโตมาร์จิ้นและกำไรสุทธิฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2567 นับว่า STA เป็นหุ้นที่เด่นในกลุ่มเกษตร
- AMATA (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท สำหรับภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี 67 เราคาดว่าจะยังมีแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย โดยในส่วนของกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ของ AMATA อยู่ที่ 463 ลบ.(-17%YoY, -32%QoQ) หดตัวหลักๆ Margin ถูกดดันจาก 1.สัดส่วนการโอนที่ดินในระยองและเวียดนามที่มี Margin ต่ำมีสัดส่วนที่สูงขึ้น และ 2.รายได้สาธารณูปโภคในเวียดนามที่ราคาขายถูกคุมด้วยภาครัฐฯ อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรไตรมาสที่ 1 จะเป็นจุดต่ำสุดของกำไรทั้งปีแล้ว และยอดโอนที่ดินจะทะยอยปรับตัวดีขึ้นของไตรมาสที่เหลือ ทั้งนี้ ในส่วนของ backlog ณ สิ้นปี มี.ค.67 ยังแข็งแกร่งที่ 1.39 หมื่นลบ.(คาดจะสามารถทะยอยโอนได้ในปีนี้ราว 50%)