BTS ร่วง 6.84% มาอยู่ที่ 5.45 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 419.34 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.03 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.45 บาท
บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) แจ้งงบปี 66/67 ขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 5,241 ล้านบาท ปัจจัยหลักจาก 1.ผลกระทบจากการรับรู้รายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวของผลขาดทุนจากการด้อยค่าและจำหน่ายเงินลงทุนในบมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) 2.การบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (ส่วนใหญ่มาจากแรบบิท โฮลดิ้งส์1 ควบคู่กับส่วนแบ่งขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนใน KEX และ 3.ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี หากหักรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ(ซึ่งรวมถึงผลขาดทุนจากการด้อยค่าและจากการจำหน่ายเงินลงทุนใน KEX ดังกล่าวข้างต้น) บริษัทรายงานกำไรสุทธิหลังปรับปรุงแล้ว จำนวน 275 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิ (ก่อนรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ หลังหักส่วนที่เป็นของผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมของบริษัทย่อย) อยู่ที่ 1.2%
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 67 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการงดจ่ายเงินปันผล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67
และพิจารณาและอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 3,283,927,455 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67 จำนวน 3,283,927,455 บาท ทั้งนี้ ภายหลังการโอนทุนสำรองตามกฎหมายเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่มีผลขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ และจะมีทุนสำรองตามกฎหมายคงเหลือจำนวน 178,065,674 บาท
พร้อมกันนี้ยังเสนอให้ผู้ถือหุ้น พิจารณาและอนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป(General Mandate) จำนวนไม่เกิน 2,600 ล้านบาท (หรือเท่ากับประมาณ 4.94% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ) โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 650 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ทั้งนี้เบื้องต้นคาดจะมีราคาเสนอขายที่ราคา 5.36 บาทต่อหุ้น โดยมีส่วนลด 10% ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ หุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอวาระเรื่องการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 67 ซึ่งตรงกับวันที่ 20-29 พ.ค.67 ซึ่งเท่ากับ 5.95 บาท (ข้อมูลจาก SETSMART ที่ www.setsmart.com) (ราคาเสนอขายสุดท้ายจะถูกพิจารณากำหนดอีกครั้งเมื่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในแต่ละครั้ง)
แผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ดังกล่าว เป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้แก่บริษัทฯ หากมีผู้ลงทุนที่เหมาะสม โดยบริษัทฯ มีการเสนอและได้รับอนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็นประจำทุกปี แต่บริษัทฯ ยังไม่มีการดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว