นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการการเงิน บมจ.บ้านปู (ฺBANPU) กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายการผลิตถ่านหินในปีนี้ที่ 20 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลผลิตจากเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ในขณะที่ผลผลิตจากเหมืองถ่านหินในไทยจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 5 แสนตัน เนื่องจากเหมืองใกล้จะปิดตัวลง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงคาดการณ์ว่ารายได้จากการขายรวมในปีนี้จะมีการเติบโตอันเป็นผลมาจากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 60 เหรียญสหรัฐต่อตัน
จากการที่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/51 สูงขึ้นเป็น 49.39 เหรียญสหรัฐต่อตันเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาส 4/50 ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นสะท้อนถึงสัญญาซื้อขายถ่านหินของบริษัทฯ ที่ปรับตัวขึ้นตามแนวโน้มราคาตลาดถ่านหินในภูมิภาค
นอกจากนี้ปริมาณการจำหน่ายถ่านหินคุณภาพดี จาก เหมืองอินโดมินโค และเหมืองทรูบาอินโด ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย มีสัดส่วนสูงขึ้นเป็นร้อยละ 78 ของปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทั้งหมดในไตรมาสนี้ ที่มีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทั้งสิ้น 4.54 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากงวดเดียวกันของปี 2550 แต่ลดลงร้อยละ 10 จากไตรมาส 4 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนของอินโดนีเซีย
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/51 มีจำนวน 7,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,786 ล้านบาท หรือร้อยละ 31 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87 ของรายได้จากการขายรวมซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 8,637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,937 ล้านบาท หรือร้อยละ 29 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายถ่านหินแบ่งเป็นรายได้จากเหมืองถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 7,393 ล้านบาท และ จากเหมืองถ่านหินในประเทศไทย 143 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวน 1,076 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 ของรายได้จากการขายรวม
“ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้านั้น การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ได้ดำเนินไปด้วยความราบรื่นตามความต้องการไฟฟ้าที่สูงในช่วงต้นปี ส่งผลให้การรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีมีจำนวน 1,425 ล้านบาทในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา (ซึ่งรวมถึงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 504 ล้านบาท) ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่งในประเทศจีนของบริษัท Banpu Power (China) Investment หรือ BPIC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ มีผลประกอบการที่ลดลงเนื่องจากราคารับซื้อไฟฟ้ายังไม่ได้มีการปรับตามราคาถ่านหินที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิจาก BPIC ในไตรมาสนี้มีจำนวน 85 ล้านบาท" นางสมฤดีกล่าว
นางสมฤดี กล่าวอีกว่า ต้นทุนการขายรวมของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/51 เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากการเพิ่มระดับความลึกในการทำเหมืองถ่านหินและราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนต้นทุนผันแปรที่ปรับตามปริมาณขายถ่านหินคุณภาพดีที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของราคาถ่านหินในประเทศจีน
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--