นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งตัวตามกรอบ 1,330 -1,350 จุด มองว่าดาวน์ไซด์ในการปรับลงต่อจำกัด ซึ่งวันนี้ไม่มีปัจจัยลบใหม่มากดดัน ขณะที่เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ของสหรัฐ ที่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 8.4 ล้านตำแหน่ง สะท้อนว่าภาคแรงงานของสหรัฐเริ่มชะลอความร้อนแรง ซึ่งอาจหนุนให้เงินเฟ้อหรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยง่ายขึ้น
ล่าสุด FedWatch Tool ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนักที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยครั้งแรกเดือนก.ย. ด้วยโอกาสมากกว่า 50% เป็นแรงหนุนต่อหุ้นสหรัฐที่เมื่อวานนี้ปรับขึ้นมา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมองว่าเป็น Sentiment บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงและ Fund Flow ที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นไทยด้วย
ขณะที่ในประเทศปัจจัยหลักมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเมื่อวานนี้มีการออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว 2 มาตรการ อาทิ มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) และมาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (สำหรับบุคคลธรรมดา) ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกอ่อน ๆ กับภาคการท่องเที่ยวและกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ในระยะถัดไปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเร่งการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ Entertainment Complex ซึ่งถ้าเร่งเกิดได้น่าจะเป็น Sentiment ที่ดีกับการลงทุนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ SET ที่อยู่บริเวณ 1,337 จุด P/E 14.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี - 1 S.D. ซึ่งมองว่าเป็นจุดที่น่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนระยะยาวเข้ามา ทำให้มองว่าดาวนไซด์จำกัด ขณะที่ภาพการขึ้นระยะสั้นต้องติดตามแรงขายของ Flow ว่าจะเริ่มชะลอเมื่อไร ซึ่งหากเริ่มชะลอ ดัชนีจะค่อย ๆ ฟื้นได้
สำหรับคำแนะนำในการลงทุนวันนี้ เลือกหุ้นที่ Valuation ไม่แพง พื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโต และในฐานะที่ตลาดมีความผันผวนเลือกหุ้นที่มี Dividend Yield ได้แก่ ADVANC และ SCCC
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,330 จุดและแนวต้าน 1,350 จุด