นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ริช สปอร์ต (RSP) เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 67 คาดจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก หลังงบประมาณรายจ่ายภาครัฐมีผลบังคับใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เขื่อว่าจะสนับสนุนรายได้ของ RSP ปีนี้เติบโต 10-15% ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจมีความท้าทายสำหรับตลาดค้าปลีกพอสมควร โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในสถานการณ์ดังกล่าว มุ่งเน้นการเติบโตจากการเพิ่มยอดขายสาขาเดิม และการขยายสาขาใหม่ รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์ และการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงของกลุ่มลูกค้าในทุกแบรนด์ที่จัดจำหน่าย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ๆ และการขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง
บริษัทฯ มองเทรนด์สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สามารถเติบโตตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยจุดเด่น RSP มีแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งกลุ่มสินค้าประเภทรองเท้า (Footwear) เสื้อผ้า (Apparel) ตลอดจนเครื่องแต่งกายอื่นๆ สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการกระจายรายได้
โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ยังคงให้ความสนใจในสินค้าที่บริษัทฯ จัดจำหน่าย ซึ่งปัจจุบัน RSP มีแบรนด์ภายใต้การจัดจำหน่าย ได้แก่ Converse, Havaianas, Barrel, Cole Haan, Acme De La Vie, O&B, ECCO และ GEOX ในประเทศไทยและกัมพูชา รวมสาขากว่า 216 แห่ง
"กลยุทธ์ของ RSP เราเดินหน้าขยายการเติบโต เพื่อตอบโจทย์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ทั้งในด้านช่องทางการจำหน่าย กิจกรรมการตลาด และการเพิ่มแบรนด์ใหม่ โดยในไตรมาสแรกของปี บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการจัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าชั้นนำเติมเต็มพอร์ต อาทิ ได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในแบรนด์ GEOX จากประเทศอิตาลี แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบรนด์รองเท้าและเสื้อผ้า รวมทั้ง คว้าลิขสิทธิ์ แบรนด์ O&B แบรนด์รองเท้าสตรีทรงบัลเลต์ซึ่งผลิตจากหนังแกะคุณภาพสูง เพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต" นางสาวพาพิชญ์ กล่าว
ด้านแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจร้านค้าปลีก โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มรายได้กลาง-บน ซึ่งมีกำลังซื้อสูงต่อเนื่อง มุ่งเน้นปรับกลยุทธ์การตลาด โดยพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกและจูงใจลูกค้า รวมถึงลงทุนขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพในต่างจังหวัด และประเทศเพื่อนบ้าน จึงช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ต่อเนื่อง
ในขณะที่ภาครัฐ ได้สนับสนุนปัจจัยบวก กระตุ้นกำลังซื้อจาก 1.นโยบายรัฐเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาติซึ่งมีเทคโนโลยีบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาลงทุนธุรกิจค้าปลีกได้ 2.ร้านค้าตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย และ 3.ภาคเอกชนวางงบลงทุนขยายสาขาต่อเนื่องเพื่อขยายฐานลูกค้า