7 บลจ.เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการคดีฟ้องอาญา STARK 8 ฐานความผิด ศาลนัดสืบพยานต้นปี 68

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 12, 2024 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

7 บลจ.เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการคดีฟ้องอาญา STARK 8 ฐานความผิด ศาลนัดสืบพยานต้นปี 68

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ในฐานะตัวแทนบริษัทจัดการลงทุนชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการกรณีการลงทุนใน บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ยืนยันความรับผิดชอบสูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน

ตามที่บริษัทจัดการลงทุนจำนวน 7 บริษัทได้มีการลงทุนใน STARK ผ่านการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง (PP) แต่ STARK นำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ตลอดจนเปิดเผยงบการเงินเป็นเท็จ เป็นเหตุให้กองทุนภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการลงทุนได้รับความเสียหายนั้น

บริษัทจัดการ 7 บลจ.ภายใต้ AIMC ได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อรักษาและติดตามผลประโยชน์ของผู้ลงทุนอย่างเต็มความสามารถ โดยล่าสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาในการเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในการฟ้องคดีอาญาต่อ STARK และบริษัทในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรรมการผู้บริหาร บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้นัดพร้อมประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐาน โดยมีคำสั่งอนุญาตให้รวมการพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.433/2567 และ อ.441/2567 เข้ากับคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อ.90/2567 โดยให้ถือสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อ.90/2567 เป็นสำนวนหลัก จากนั้นได้พิจารณาคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของ บลจ.ทั้ง 7 แห่ง และคำสั่งอนุญาต

บลจ.ทั้ง 7 แห่งจะเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีอาญาทั้ง 3 คดีดังกล่าว ใน 8 ฐานความผิด ได้แก่ 1. ความผิดฐานเป็นกรรมการและผู้บริหารไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต 2. ฐานเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบการดำเนินการของนิติบุคคลโดยทุจริต หลอกลวง ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง 3. ฐานเป็นกรรมการผู้จัดการหรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล ครอบครองทรัพย์ของนิติบุคคลเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต 4. ฐานเป็นกรรมการผู้จัดการหรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลกระทำการหรือไม่กระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นิติบุคคลนั้น 5. ฐานเป็นกรรมการผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานของนิติบุคคล ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ 6. ฐานกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือโดยความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามมาตรา 306 มาตรา 307 มาตรา 308 มาตรา 311 และมาตรา 312 ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 89/7, 98/24, 306, 307, 308, 311, 312 และ 315 7. ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ 8. ฐานเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นกระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 352 และ 353

ทั้งนี้ ศาลอาญามีคำสั่งนัดสืบพยานครั้งแรกในวันที่ 14 มกราคม 2568 ​​​​


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ