ท่ามกลางการหาคะแนนเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่าง Joe Biden ที่หวังครองตำแหน่งอีกสมัย กับ Donald Trump ผู้ท้าชิงหน้าเก่าที่เคยนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีมาแล้ว Trump งัดไม้เด็ดมาเพื่อกวาดคะแนนจากผู้คนวงการคริปโทฯ ด้วยนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโทฯ อย่างออกนอกหน้า งานนี้ใครจะได้คะแนนเสียงมากกว่ากัน??
*บิทคอยน์เหลืออีกเท่าไรไม่รู้ แต่ถ้าเลือก Trump บิทคอยน์ที่เหลือจะถูกขุดที่สหรัฐ!!!
ช่วงนี้สหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างการหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดี แล้ว Candidate ที่มาแรงก็คือ Joe Biden ที่หวังครองตำแหน่ง กับผู้ท้าชิงหน้าเก่าอย่าง Donald Trump
ล่าสุด Trump ปราศรัยหาเสียงที่ Mar-a-Lago รีสอร์ทสุดหรู พร้อมทั้งเชิญบุคคลสำคัญในวงการคริปโทฯ สายขุดมาร่วมงานเพื่อสนับสนุนจุดยืนที่จะผลักดันอุตสาหกรรมคริปโทฯ
แถม Trump ยังมีการโพสใน Truth Social ใจความประมาณว่า "ให้เลือก Trump เพราะบิทคอยน์จะเป็นปราการสุดท้ายที่เราจะใช้สู้กับ CBDB และ บิทคอยน์ที่เหลือจะต้องถูกขุดที่สหรัฐ!!!"
เรียกว่าเป็นการปราศรัยดุเดือด แถมยังเอาใจสายคริปโทในสหรัฐแบบสุดลิ่มทิ่มประตู แล้วถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกใคร Biden หรือ Trump??
*เงินเหลือเยอะเกินไป!! Tether เตรียมนำเงินไปลงทุนด้าน AI เพิ่ม
เหมือนเงินจะเหลือเยอะเกินกับ Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT เพราะล่าสุดมีรายงานมาว่าทาง Tether เตรียมนำเงินไปลงทุนด้าน AI เพิ่มกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์
Paolo Ardoino, CEO ของ Tether ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการใช้เงินกับเทคโนโลยี เช่น AI และ และโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน กว่า 2,000 ล้านดอลลาร์
และการเคลื่อนไหวดังกล่าว ก็เกิดขึ้นไม่กี่เดือนหลังจากที่ Tether ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็นแผนกต่าง ๆ หลายแผนก รวมไปถึง Tether Data, Tether Finance, Tether Power, Tether Edu, Tether Evo และอื่นๆ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นอกเหนือจากการลงทุนด้าน AI แล้ว Tether ยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขุด Bitcoin มากขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ลงทุน 150 ล้านดอลลาร์ใน Bitdeer บริษัทขุดคริปโต ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย
ดูท่าจะมีเงินเหลือเยอะจริง ๆ!
*ผู้ใช้งาน OKX ผวา!! แห่ถอนเงินออกกว่า 20,000 ล้านบาท
เหมือนคราวเคราะห์ของ OKX เมื่อล่าสุดพบว่า ในรอบ 7 วัน แพลตฟอร์มมีคนแห่ถอนเงินออกกว่า 20,000 ล้านบาท โดยสาเหตุเกิดจากความกังวลด้านความปลอดภัย เมื่อมีผู้ใช้งานออกมารายงานว่าพวกเขาสูญเสียเหรียญให้กับแฮกเกอร์ ทางผู้เสียหายบอกว่า ได้รับการแจ้งเตือน SMS จากทางฮ่องกง รวมถึงการที่ Hacker ได้สร้าง API Keys เพื่อเข้าถึงสิทธิในการถอนและซื้อขายเหรียญ
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัย Web3 อย่าง Dilation Effect ได้วิเคราะห์ว่า Hacker รายนี้มีพฤติกรรมที่น่าประหลาด เนื่องจาก Hacker สามารถเข้าไปเปลี่ยนวิธีการยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยต่ำ อย่างเช่น อีเมลหรือ SMS ได้ แม้ว่าผู้ใช้งานจะเชื่อมบัญชีของตนกับ Google Authenticator (GA) รวมถึงสามารถถอนเงินออกได้โดยระบบไม่มีการตรวจสอบแบบไดนามิกอีกด้วย
กรณีนี้ถือว่าน่ากลัวมาก ๆ ใครที่เทรดบน OKX อย่าลืมตรวจสอบบัญชีกันให้ดี ๆ
https://youtu.be/idXaIwQmcPk