บมจ.วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ (VBYOND) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 230 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.71% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VBYOND กล่าวว่า การระดมทุนดังกล่าวจะนำไปใช้รองรับการเติบโต เพิ่มความน่าเชื่อถือรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้เพื่อ 1.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน อาทิ วางมัดจำเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิการบริหารการขาย และเป็นเงินทุนพัฒนาโครงการบ้านมือสอง เป็นต้น 2.ใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีบริการ Online และระบบปฏิบัติการ และ 3. เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
VBYOND ประกอบธุรกิจนายหน้า ตัวแทนในกิจการและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านออนไลน์ เว้นแต่ในธุรกิจประกันภัย การหาสมาชิกให้สมาคมและการค้าหลักทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเติบโตเป็น Property Technology Company (Prop Tech) โดยบริษัทจะให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (One Stop Service) ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำตลอดจนถึงปลายน้ำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น การให้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ การให้บริการนายหน้าในการจัดหาผู้รับเหมาออกแบบ ซ่อมแซม ก่อสร้างและตกแต่งภายใน นายหน้าด้านการให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น รวมถึงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านมือสองเพื่อขาย
ปัจจุบันโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท แบ่งประเภทในการประกอบธุรกิจออกป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจนายหน้า ตัวแทนในการซื้อ ขาย อสังหาริมทรัพย์และบริการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง 2.ธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ และ 3.ธุรกิจลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นำมารีโนเวท เพื่อขายต่อ ประเภทบ้านมือสอง
VBYOND มีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการและเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่และบริการต่างๆ มีเป้าหมายเติบโตเป็น Prop Tech นำสินค้าอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทมารวมไว้ใน platform เดียว ตอบโจทย์ทุกความต้องการทั้งซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้าง ตกแต่ง และลงทุน พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคด้วยระบบค้นหาตัวตนอัจฉริยะ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ ให้มีการเติบโตไปสู่เป้าหมายการเป็น Global Business ในอนาคต
นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของ VBYOND ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 64-66) บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 194.19 ล้านบาท 217.67 ล้านบาท และ 303.86 ล้านบาทตามลำดับ และในงวด 3 เดือนแรกของปี 66-67 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 104.46 ล้านบาท และ 57.33 ล้านบาท
ด้านกำไรสุทธิปี 64-66 จำนวน 27.07 ล้านบาท 58.55 ล้านบาท และจำนวน 112.03 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิร้อยละ 13.94 ร้อยละ 26.88 และร้อยละ 36.87 ตามลำดับ
โดยตลอด 3 ปี บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง เป็นผลสืบเนื่องจากการเติบโตของรายได้กลุ่มธุรกิจนายหน้า การขยายไปทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 64 เริ่มทำธุรกิจนายหน้าจัดหาผู้รับเหมา และปี 65 เริ่มทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือสองเพื่อขาย และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้สามารทำกำไรสุทธิสูงขึ้นทุกปี