ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาหุ้นหลายตัวร่วงหนักมาก ติดฟลอร์กันเลยทีเดียว และฟลอร์ต่อเนื่องด้วย ความผิดปกติเช่นนี้สร้างความแตกตื่น และแน่นอน Sentiment ของตลาดแย่มากๆ ดัชนี SET ลงมาจาก 1,377 จุดถึงวานนี้ (19 มิ.ย.) ไปทำนิวโลว์ที่ 1,281 จุด ต่ำสุดในรอบมากกว่า 4 ปี
ส่องหุ้นที่ร่วงหนักส่วนใหญ่เป็นหุ้นเล็ก บางตัวเคยเป็นหุ้นเด่นหุ้นดัง รวมไปถึงหุ้นเก็งกำไรหน้าเดิม ๆ ซึ่งมีชื่อปรากฎอยู่ในบัญชีหุ้นค้ำประกันบัญชีเงินกู้ยืมซื้อหลักทรัพย์ หรือบัญชีมาร์จิ้นในสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เมื่อตลาดหุ้นไม่เป็นใจ ราคาหุ้นปรับตัวลง และตกลงมาถึงจุดที่ต้องบังคับขาย (Force Sell) ซึ่งส่วนใหญ่หุ้นเหล่านนี้มาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีหุ้นตัวเองถือจำนวนมากและนำไปวางบัญชีมาริ์จิ้น
*ยังไม่รู้ว่ามีหุ้นเล็กอีกกี่ตัวที่จะต้องเจอ Force Sell ?!
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า โอกาสที่จะเห็นการเกิด Force Sell สูงกับหุ้นอีกหลายตัว ตราบใดที่ดัชนี SET ยังไม่นิ่ง ไม่รู้ว่าแนวรับ 1,280 จุดคือจุดต่ำสุดหรือไม่
ในช่วงตั้งแต่ 4 มิ.ย.จนถึง 19 มิ.ย. หรือแค่ 12 วันทำการ นักลงทุนต่างชาติขายออกไปแล้วกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และตั้งแต่ต้นปี 67 จนถึงล่าสุด ต่างชาติเทขายไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท เท่ากับว่าช่วงกว่าครึ่งแรกเดือนมิ.ย.ต่างชาติขายไป 1 ใน 5 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดหุ้นในเดือนมิ.ย.มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางการเมือง และปัญหาหุ้นถูก Force Sell หลายตัว
โดยเฉพาะหุ้นที่ถูก Force Sell เกิดจากบัญชีมาร์จิ้นที่ดูจะเป็นปัญหากดดันภาพตลาดหุ้นมากที่สุดในเวลานี้ และก็ยังไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่หุ้นอีกกี่ตัวที่จะถูก Force Sell เพราะเมื่อตลาดลง ราคาหุ้นลง ก็มีโอกาสเห็นอีกแน่นอน
*ระวังหุ้นเจ้าของถือเยอะ Free Float ต่ำ
ยกตัวอย่างหุ้น NRF ที่ราคาหุ้นดิ่งฟลอร์มา 3 วันซ้อนเป็นผลจากถูก Force Sell โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งนำหุ้น NRF ไปวางมาร์จิ้น แต่บุคคลคนนี้ไม่ได้ถือเฉพาะหุ้น NRF แต่ก็มีหุ้นตัวอื่นด้วยเมื่อราคาปรับลงกฉุดให้หลักประกันรักษาสภาพ (mamtanace margin) หายไป เมื่อไม่มีเงินมาวางก็ต้องถูกบังคัยขายหุ้นในพอร์ตออกมาอีก
"มันจะกระทบเป็นโดมิโน พัวพันกลายเป็นภาพวงจรอุบาทว์ ฉะนั้น ก็จะเห็นราคาดิ่งลงฟลอร์แบบไม่มีเหตุผล อย่าง NRF ราคายืนอยู่ระดับ 5 บาทมานาน ไม่มีปัญหาหนี้สูง หรือฐานะการเงินก็ไม่ได้มีปัญหา แต่จู่ๆ ราคาหุ้นกลับปรับลงแรง ส่วนใหญ่หุ้นตัวเล็กเสี่ยงถูก Force Sell ที่มีเจ้าใหญ่ถือหุ้นในมือเยอะ Free Float ต่ำ พอตลาดลง ราคาลงต่ำลงไปอีก ก็จะเกิดวงจรอุบาทว์นี้ไปเรื่อยๆ"
ยังไม่นับเรื่อง Short Sell ที่นักลงทุนบางกลุ่มเห็นโอกาสหาช่องเข้ามาสร้างผลกำไร เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นลงไปมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ยิ่งทำให้ภาพตลาดหุ้นดูไม่ดีเลย
*NEX จุดพลุ Force Sell
แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวว่า กรณี บล.ขีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) ประกาศเลิกให้บริการบัญชีมาร์จิ้นภายในวันที่ 20 ธ.ค.67 ที่ลูกค้าต้องนำเงินมาชำระหนี้ หรือให้ลูกค้าย้ายโบรกเกอร์นั้น เท่าที่ทราบ แซด คอม มีบัญชีปล่อยมาร์จิ้น 1 หมื่นล้านบาท โดยให้วางหลักประกัน 50% ก็เท่ากับซื้อหุ้นได้ 2 หมื่นล้านบาท เป็นจำนวนเงินปล่อยมาร์จิ้นที่สูงมาก และเมื่อบริษัทจะปิดบริการนี้ เขาก็ต้องให้ลูกค้านำเงินมาใช้คืน แต่ถ้าไม่มีก็ต้องบังคับขายหุ้นที่ใช้เป็นหลักประกัน
พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า จุดเริ่มต้นน่าจะเริ่มจากลางเดือน พ.ค.ราคาหุ้น NEX ปรับลงแรง โดยวันที่ 14 พ.ค.รูดหนัก 23.08% มาที่ 5.85 บาท และ 15 พ.ค.ปรัยลง 30.26% มาที่ 4.08 บาท จากก่อนหน้าราคา NEX วิ่งประมาณ 9.00-10.00 บาท และต่อมามีรายงานการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ และภรรยาออกมาถึง 413.27 ล้านหุ้นที่ราคา 4.08 ผ่าน บล.ซีเอ็มโอ-แซด คอม ในวันที่ 15 พ.ค.น่าจะเป็นผลจากที่ แซด คอม กำลังปิดบริการนี้
แล้วก็ไม่รู้เลยว่าบัญชีมาริ์จิ้นที่ แซด คอม ปล่อยมาริ์จิ้นมีหุ้นอะไรบ้าง และมีจำนวนอยู่เท่าไหร่ จะโดนฟอร์ซเซลกันอีกหรือไม่?