ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,307.08 จุด เพิ่มขึ้น 0.67 จุด (+0.05%) มูลค่าซื้อขายราว 18,721 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งกรอบแคบๆ ทำระดับต่ำสุด 1,300.36 จุด และสูงสุด 1,308.54 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ แต่ดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ ๆ ที่เข้ามาสนับสนุน อีกทั้งนักลงทุนยังรอดูการแถลงข่าวระหว่างกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนในช่วงเย็นวันนี้ คาดว่าจะมีการนำกองทุน TESG มาปรับเงื่อนไขใหม่ ซึ่งมองว่าน่าจะพอช่วยพยุงตลาดเอาไว้ได้บ้าง จากเม็ดเงินที่จะเข้ามามากขึ้น ขณะที่หากลงทุนในช่วงนี้ ถือเป็นจังหวะที่ดีที่หุ้นไทยอยู่ในจุดที่มี Valuation ถูก
ส่วนแรงกดดันวันนี้มาจากหุ้นบมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เป็นหลัก เนื่องจากมีประเด็นการขอคืนพื้นที่เช่าบางส่วน แลกกับรายได้ที่หายไป ทำให้มองว่าจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานราว 4-5% ถือว่าไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ น่าจะยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ เพื่อรอดูปัจจัยใหม่ ให้แนวรับที่ 1,300 จุด และแนวต้าน 1,315 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,573.17 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท ลดลง 3.00 บาท
TTB มูลค่าการซื้อขาย 705.39 ล้านบาท ปิดที่ 1.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 576.33 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 560.75 ล้านบาท ปิดที่ 85.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 447.69 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท