นายนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพยประกันชีวิต กล่าวว่า เบี้ยรับรวมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 3.4 พันล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 3.2 พันล้านบาท ขณะที่ทั้งปีบริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวมเติบโต 14-15% หรือราว 8 พันล้านบาท โดยมาจากการที่บริษัทได้ขยายธุรกิจไปกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ทำให้เบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้นในระดับหลักพันล้านบาท ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากพันธมิตรในกลุ่มสหกรณ์
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจด้านประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าของธนาคารออมสิน ถือว่าชะลอตัวลง เนื่องจากธนาคารออมสินมีนโยบายเน้นการช่วยเหลือลูกค้ามากกว่าการขยายสินเชื่อ ทำให้บริษัทต้องมองหาพันธมิตรเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตของเบี้ยประกัน พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับธนาคารออมสิน เช่น บัตรเดบิต ออมสิน อุ่นใจ ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่มีความคุ้มครองชีวิตเพิ่มเข้ามา โดยที่เป้าของบริษัทตั้งเป้าทำการตลาดและเสนอผลิตภัณฑ์ให้กีบกลุ่มลูกค้าได้ในสิ้นปีนี้ 1 แสนใบ เพิ่มจากของธนาคารออมสินที่ 1 แสนใบ
นายนพพร ยังกล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทำให้พอร์ตลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตได้รับประโยชน์ สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนได้มากกว่า 3% จากมูลค่าพอร์ตปัจจุบัน 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนราว 60% และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ราว 4 พันล้านบาท ก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าบริษัทจะมีการลงทุนหุ้นกู้เอกชนเป็นสัดส่วนค่อนข้างมาก และในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้หลายราย แต่บริษัทใช้นโยบายลงทุนอย่างระมัดระวัง ใช้วลาศึกษาความสามารถในการทำรายได้และกำไร แผนการลงทุน จำนวนหนี้ กระแสเงินสด ของบริษัทนั้นๆอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต