นายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB ) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบมจ.พลังงานบริสุทธ์ (EA) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 67 คาดการณ์บริษัทสามารถเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 260 ล้านบาท/เดือน จากปัจจุบันการเดินรถ 123 เส้นทาง ทำรายได้ 150 ล้านบาทต่อเดือน โดยมีแผนเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร ที่จะมาจาก 1.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะถอดการเดินรถจำนวน 14 เส้นทางที่วิ่งทับซ้อนของบริษัทตามแผนปฎิรูป 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ ในวันที่ 24 ก.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มรายได้อีก 30 ล้านบาท/เดือน
2. บริษัทได้เสนอกรมการขนส่งทางบกเพื่อปรับปรุง 116 เส้นทางเพื่อให้ระยะทางวิ่งไกลมากขึ้นไม่เกิน 10 กม. เพื่อรองรับพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่นได้มากขึ้น โดยคาดว่าหากได้ปรับปรุงเส้นทางแล้วจะสามารถเพิ่มรายได้อีก 80 ล้านบาท/เดือน
3.บริษัทมีแผนขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 50%ในปลายปี 67 จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด 30% โดยจะเพิ่มจำนวนรถเป็น 1,900 คันในไตรมาส 4/67 จากที่วิ่งอยู่ 1,500 คัน และคาดเพิ่มจำนวนรถเป็น 2,350 คัน ในไตรมาสแรกปี 68 โดยจะเพิ่มในเส้นทางเดิมที่มีจำนวนผู้โดยสารหนาแน่น จะทำให้สร้างรายได้มากขึ้น
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ไทยสมาย์บัส มีรายได้เฉลี่ย 3,400 บาท/วัน/คัน โดยมีรายได้ต่ำสุด 1,500 บาท/วัน/คัน และรายได้สูงสุดกว่า 5,000 บาท/วัน/คัน โดยเส้นทางที่ทำรายได้สูงสุด 2 สาย คือสาย 8 และ สาย 140 อย่างไรก็ดี จุดคุ้มทุนที่รวมต้นทุนการเงินอยู่ที่ 7,000 บาท/วัน/คัน
นอกจากนี้ บริษัทจะรุกทำการตลาดมากขึ้น โดยตั้งเป้าจะเพิ่มผู้ถือบัตร Hop Card ที่ลงทะเบียน 3-4 แสนใบ และขายได้ 5-6 แสนใบ จากปัจจุบัน ขายบัตร Hop Card แล้ว 1.3 แสนใบ แต่มีคนลงทะเบียน 5-6 หมื่นใบ โดยบริษัทมีแผนเพิ่มสิทธิประโชน์บัตร Hop Card ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรหลายราย ซึ่งที่เจรจาแล้ว คือ กลุ่มไมเนอร์กรุ๊ป ที่ให้ส่วนลดอาหารในกลุ่ม และพันธมิตร โดย 1 เส้นทางจะมีพาร์ทเนอร์ 1-2 รายต่อเส้นทาง บริษัทมี 123 เส้นทาง ก็จะดึงพันธมิตรราว 300 ราย ที่จะดึงร้านค้าเข้าร่วม นอกจากนี้ยังขยายพันธมิตรรูปแบบ B2B ในกลุ่มโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSB กล่าวว่า จากกรณีที่ผู้ประกอบการรายเดิมเตรียมหยุดให้บริการรถโดยสารประจำทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 14 เส้นทาง ในเดือนก.ค.นี้เป็นต้นไป บริษัทได้เล็งเห็นถึงปัญหาการเดินทางที่อาจเกิดขึ้นกับความไม่สะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารหลังจากผู้ประกอบการรายเดิมถอดถอนรถให้บริการออกไป บริษัทจึงได้เตรียมแผนที่จะนำรถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าออกมาให้บริการทดแทน ยืนยันมีความพร้อมในการให้บริการประชาชนในเส้นทางทั้งหมด โดยเบื้องต้นได้เตรียมรถให้บริการเพิ่มอีกกว่า 389 คัน และจะทยอยเพิ่มจำนวนต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ