ขณะที่วันนี้จะมีการปรับน้ำหนักดัชนี SET50, SET100 อาจเห็นการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นรายตัว ประกอบราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงกังวลต่อค่าเงินเยนที่อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 38 ปี ทำให้เป็นแรงกดดันต่อค่าเงินในภูมิภาค กระทบต่อเงินทุนต่างชาติไหลออก (Fund Flow) ต่อเนื่อง
ให้แนวรับไว้ที่ 1,300-1,290 จุด และแนวต้าน 1,315-1,325 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,164.06 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,482.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,858.68 จุด เพิ่มขึ้น 53.53 จุด หรือ +0.30%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 39,593.01 จุด เพิ่มขึ้น 251.47 จุด หรือ +0.64%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 17,583.19 จุด ลดลง 133.28 จุด หรือ -0.75% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,940.30 จุด ลดลง 5.55 จุด หรือ -0.19%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 มิ.ย.) 1,309.46 จุด ลดลง 9.69 จุด (-0.73%) มูลค่าการซื้อขายราว 34,178.40 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,400.81 ล้านบาท (27 มิ.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (27 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 81.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 มิ.ย.) อยู่ที่ 4.34 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.83 ทรงตัวจากวานนี้ แนวโน้มแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่ จับตาทิศทาง Flow
- "ภากร" หวังภาครัฐออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แม้ "จีดีพีไทย" ปีนี้ยังโตระดับ 3% ระบบการเงินยังแข็งแกร่ง เชื่อฝ่าสถานการณ์โลกเดือดได้ พร้อมชูจุดแข็ง "7 ธีมลงทุน" ธุรกิจโตโดดเด่น ชี้หุ้นไทยราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีน่าลงทุน
- "พิชัย" เร่งมาตรการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าโตเกิน 3% เรียกถก "แบงก์รัฐ" ออกมาตรการแก้หนี้ เจาะรายเซกเตอร์ ดันซอฟต์โลน 1 แสนล้าน หนุนดอกเบี้ยกู้ต่ำลง ปลดล็อกประวัติเครดิตบูโร ระบุระยะยาวรัฐต้องลงทุนเพิ่ม ไม่หวั่นขยายเพดานหนี้สาธารณะหากเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง ย้ำบิ๊กเทคโลกจ่อคิวเจรจาลงทุนในไทยทั้ง อีวี เซมิคอนดักเตอร์ และดาต้าเซนเตอร์
- กบง.สั่งตรึงราคา LPG อีก 3 เดือน มีผล 1 ก.ค. - 30 ก.ย.67 พร้อมชง ครม.ไฟเขียวอุ้มกลุ่มเปราะบาง ช่วยเหลือค่าน้ำมัน 120 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน เริ่ม ต.ค.- ธ.ค.67
หุ้นเด่นวันนี้
- AMATA (กสิกรไทย) แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 28.5 บาท เป็นหุ้นที่มีปริมาณธุรกรรมชอร์ตเซลล์ราว 14.74 ต่อปริมาณการซื้อขายตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา และยัเป็นหุ้นที่มีมูลค่าคงค้างธุรกรรมขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน 1.16% แนวโน้มของยอดขายของที่ดินจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจาก Q167 ที่ทำได้ 325 ไร่และจะสูงสดใน Q2/67 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินปี 67 ที่ 1,800-2,000 ไร่ที่มี demand จาก relocation ของนักลงทุนต่างชาติหลีกเลี่ยง geopolitical risk หลัง trade war ระหว่างสหรัฐและจีนที่กลับมาตึงเครียดขึ้น
- PHG (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21 บาท เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ราคาถูกที่สุดในไทย ปัจจุบันเทรด PE เพียง 15 เท่า ไม่มีหนี้ และคาดกำไรสุทธิปี 67 ที่ 303 ล้านบาท +17% y-y ปัจจัยหนุนการเดิบโต ได้แก่ 1.รายได้ปรับสูงขึ้นหลังยกระดับดความสามารถในการรักษา Tertiary Care 2. มีสัดส่วนผู้ป่วยด่างชาติ (LMV เพิ่มขึ้นจากค่ารักษาที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยยะ 3. มีแผนสร้างโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง คาดแล้วเสร็จปี Q2/68-Q4/68 หนุนการเติบโตระยะยาว
- ADVANC (คิงส์ฟอร์ด) แนะนำซื้อสะสม ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 257.00 บาท กำไรสุทธิงวด Q1/67 +QoQ, +YoY นอกจากจะได้ปัจจัยหนุนทางรายได้ตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีรายได้ของ TTTBB เข้ามาเสริม ขณะที่ฝั่งค่าใช้จ่ายสามารถควบคุมได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลงอย่างมีนัยยะ ทั้งนี้ สำหรับ Q2/67 เบื้องต้น เราคาดกำไรทรงตัวลบ QoQ ตามฤดูกาล ส่วน YoY ยังเป็นบวกจาก 1.รายได้ฝั่งธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังมีโมเมนตัมที่ดี 2.Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G 3.การแข่งขันที่สดลง ปัจจุบัน ยังคาดกำไรสุทธิปี 67 ที่ 31,463 ล้านบาท +14%YoY