CONSENSUS: TTB กำไรโตดีรับประโยชน์ภาษีควบรวม เน้นคุณภาพสินเชื่อ-คุมเข่ม NPL-อัพไซด์สูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 1, 2024 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) โบรกยกเป็น Top Pick กลุ่มแบงก์ แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่องทั้งปี รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการควบรวมกิจการช่วยหนุน แม้สินเชื่อชะลอตัวจากกลยุทธ์ของ TTB ที่เน้นปล่อยสินเชื่อคุณภาพด้วยการเพิ่มความเข้มงวด และคุม NPL ทรงตัว ไม่ให้กระทบสำรองมากดดันกำไร อีกทั้งราคาหุ้น TTB ปรับลงมาจากที่เคยขึ้นไปสูงสุด YTD ที่ 1.89 บาทเมื่อเดือน ก.พ.67 เปิดอัพไซด์ ขณะที่ผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 7%

ราคาหุ้น TTB ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 1.71 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวานนี้

          ฟินันเซีย                        ซื้อ                          2.24
          กรุงศรี                         ซื้อ                          2.20
          ดาโอ                          ซื้อ                          2.10
          เมย์แบงก์                       ซื้อ                          2.10
          ดีบีเอส                         ซื้อ                          2.02
          ฟิลลิป                          ซื้อ                          2.00
          พาย                           ซื้อ                          1.98
          กสิกรไทย                       ซื้อ                          1.88

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.พาย มองว่า TTB โดดเด่นในหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้สินเชื่อจะไม่ขยายตัว เนื่องจากกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเอสเอ็มอีชะลอตัว แต่กำไรยังสามารถเติบโตได้ จากผลประโยชน์ทางภาษีจากการควบรวมที่ยังมีอยู่ ช่รยสนับสนุนผลงานของ TTB ในช่วงที่รายได้จากการดำเนินงานลดลง ทำให้ยังคงประมาณการกำไร TTB ในปี 67 เติบโตได้ 14%

ขณะที่กลยุทธ์ของ TTB หันมาควบคุมคุณภาพของสินเชื่อมากขึ้น ผ่านการขยายสินเชื่อในกลุ่มของลูกค้าคุณภาพสูง ช่วยควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และไม่ทำให้ต้องตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า NPL ของ TTB จะทรงตัวอยู่ที่ 2.6% และอัตราส่วนการตั้งสำรองฯจะอยู่ที่ระดับ 156.5% อีกทั้งราคาหุ้นของ TTB ปรับตัวลดลง ทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงขึ้นมาเป็น 7.3% อยู่ในระดับค่อนข้างสูง และมีความน่าสนใจ ยังคงแนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 1.98 บาท/หุ้น

นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มอง TTB ยังเป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มแบงก์ แม้ว่าสินเชื่ออาจจะยังเป็นภาพของการชะลอตัว เนื่องจากกลยุทธ์ของธนาคารที่หันมาเน้นสินเชื่อที่มีคุณภาพ และเข้มงวดในการให้สินเชื่อมากขึ้น แต่ภาพรวมของผลการดำเนินงานของ TTB ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่องซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของ TTB ตลอดทั้งปี 67 และยังคงประมาณการกำไรของ TTB ในปี 67 ไว้เติบโต 21.4%

ขณะที่ราคาหุ้นของ TTB ที่ปรับตัวลงมาทำให้อัพไซด์ราคาเปิดกว้างขึ้น และผลตอบแทนจากเงินปันผลเพิ่มขึ้นมาที่ 7% ถือว่าอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ ความกังวลในการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นของ TTB ยังมีไม่มาก จากการที่แนวโน้มของ NPL คาดว่ายังทรงตัวในระดับ 2.6% และการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ปัจจัยของการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นจะไม่มีผลกดดันกำไรของ TTB และทำให้ผลการดำเนินงานของ TTB ยังสามารถทำได้ดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง อีกทั้งได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง โดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2 บาท/หุ้น

ส่วน บล.กรุงศรี มีมุมมองว่า TTB ยังได้รับประโยชน์สิทธิพิเศษทางภาษีจากการควบรวมกิจการ เป็นปัจจัยหนุนกำไรในปีนี้ให้เติบโตได้ราว 11% แม้ภาพของการขยายสินเชื่อจะชะลอตัวลงบ้างก็ตาม แต่ได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวสูง ทำให้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ยังสูงกว่า 3% เป็นปัจจัยหนุนกำไรของ TTB และคาดว่าในไตรมาส 3/67 หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังเห็นทิศทางของการเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความเสี่ยงในการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นของ TTB ยังไม่มี จากการควบคุมคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อที่ดีต่อเนื่อง และกลยุทธ์ของธนาคารที่หันมาเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และเป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพ ทำให้ความเสี่ยงการเพิ่มของ NPL มีน้อย และคาดว่าจะเห็น NPL ทรงตัวในระดับ 2.6% ทำให้ TTB เป็นหุ้น Top Picks ในกลุ่มแบงก์ แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท/หุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ