นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายการเงิน บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 67 สามารถสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ เติบโตทั้งยอดขายและยอดโอน โดยงวด 6 เดือนแรกสามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 2.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 48% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 5.2 หมื่นล้านบาท และในส่วนของยอดโอนพุ่งทะลุไปถึง 2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 47% จากเป้าหมายยอดโอน 4.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้วางเป้าหมายมุ่งชาเลนจ์แข่งขันกับเรคคอร์ดของบริษัทเองในแต่ละไตรมาสเพื่อรักษาผลประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางสถานะการณ์ที่มีความท้าทาย
โครงการเปิดตัวใหม่สามารถทำยอดขายดีในทุกโครงการ และประสบความสำเร็จจากการ Sold Out ถึง 20 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีในทุกเซกเมนต์ ทั้งคอนโดมิเนียมแบรนด์คอนโด "มี" ที่ปิดการขายไปถึง 6 โครงการ ขณะที่แนวราบได้รับการตอบรับที่ดีทั้งทาวน์โฮมโครงการ สิริ เพลส บางนา-เทพารักษ์ บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ อณาสิริ บ้านเดี่ยวแบรนด์คณาสิริ ฮาบิเทีย ไพร์ม และเศรษฐสิริ รวมทั้งโครงการระดับลักซ์ชัวรี ที่สามารถ Sold Out บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย ในวันแรกที่เปิดจอง และแบรนด์ใหม่ "ELSE" (เอลซ์) เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนซ์ จำนวนยูนิตน้อย Private สูง ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จนปิดการขายไปถึง 2 โครงการในระยะเวลาที่รวดเร็ว ได้แก่ "เอลซ์ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ" ที่ Sold Out ก่อนเปิดตัวโครงการ และล่าสุด "เอลซ์ กรุงเทพกรีฑา"
สำหรับแผนธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/67 บริษัทจะรุกเปิดตัว 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 1.6 หมื่นล้านบาท ไฮไลต์การเปิดตัวคอนโดมิเนียมถึง 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยทั้งโครงการบนสุดยอดทำเลศักยภาพในย่าน CBD บนทำเลสุขุมวิท, การรุกพัฒนาโครงการใน Strategic Location หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ รวมถึงตลาดฝั่ง EEC โซนภาคตะวันออก ตั้งแต่ พัทยา บางแสน พร้อมทั้งลุยเปิดตัว Affordable Condo อย่างต่อเนื่อง "แสนสิริให้ความสำคัญกับการบริหาร Portfolio ให้เหมาะสมรองรับการเติบโต ใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริษัทมีผลประกอบการที่โตอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ตอกย้ำ 40 ปี แบรนด์อสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งผ่านการออกแบบที่โดดเด่นรักษามาตรฐานด้านคุณภาพของสินค้าและการบริการ"
สำหรับในปี 67 บริษัทวางแผนเปิดตัวรวม 46 โครงการ มูลค่ารวม 6.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 26 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท และแนวสูง 20 โครงการ มูลค่ารวม 2.6 หมื่นล้านบาท เน้นขยายการลงทุนไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวและทำเลศักยภาพที่มีความต้องการสูง ซึ่งการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมดในปี 67 เป็นการสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง