นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ตอบรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกสเมื่อวานนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเงินเฟ้อค่อยๆ ปรับตัวลดลง หนุนโอกาสเฟดปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ 65% จากปลายสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 60%
ขณะที่บ้านเราตลาด ฯ ยังอยู่ในโซนปรับฐาน เนื่องจากความเชื่อมั่นนักลงทุนยังฟื้นตัวได้ช้า แม้มีมาตรการ Uptick Rule แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง และนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง
ทั้งนี้ยังมีประเด็นการเมืองที่ต้องจับตา โดยวันนี้ติดตามการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูธ ซึ่งจะมีเรื่องของการ พิจารณายุบพรรคก้าวไกล, และคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามอาจจะยังไม่เห็นความชัดเจน หลังประธานศาลรัฐธรรมนูญระบุจะได้ข้อสรุปก่อนเดือนก.ย.นี้ ทำให้ปัจจัยการเมืองน่าจะยังยืดเยื้อต่อไป
ให้แนวรับที่ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,331.85 จุด เพิ่มขึ้น 162.33 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,509.01 จุด เพิ่มขึ้น 33.92 จุด หรือ +0.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,028.76 จุด เพิ่มขึ้น 149.46 จุด หรือ +0.84%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 40,225.83 จุด เพิ่มขึ้น 151.14 จุด หรือ +0.38%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,841.77 จุด เพิ่มขึ้น 72.63 จุด หรือ +0.41% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,995.66 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.04%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ค.) 1,288.58 จุด ลดลง 10.77 จุด (-0.83%) มูลค่าซื้อขายราว 38,274.60 ล้านบาท¶
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,751.01 ล้านบาท (2 ก.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (2 ก.ค.) ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรล¶
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ค.) อยู่ที่ 4.16 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.80 แนวโน้มผันผวน ตลาดรอข้อมูลศก.สหรัฐ-สัญญาณดอกเบี้ยเฟด ให้กรอบ 36.75-36.90
- จับตาการเมืองในประเทศต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดียุบพรรค ก้าวไกลวันที่ 3 ก.ค. นี้
- แผนปรับปรุงการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่ 2 งบปี 67 ให้รัฐบาลก่อหนี้ใหม่อีก 2.75 แสนล้าน "คลัง" พร้อม จัดงบฯใช้หนี้เกิน 2.5 - 4% พร้อมกำกับการลงทุนรัฐวิสาหกิจหันเพิ่มโครงการPPP หวังลดภาระ งบประมาณรัฐ พาณิชย์ ยันร้านค้าพร้อมร่วม ดิจิทัลวอลเล็ต
- ครม.ไฟเขียวยุบ "ร้านค้าปลอดอากรขาเข้า" 8 สนามบิน "กีรติ" เตรียมเจรจา "คิง เพาเวอร์" ยุติให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ พร้อมเสนอคณะกรรมการเอโอทีเห็นชอบก่อนดำเนินการตามมติรัฐบาล
- MRT แจ้งขึ้นค่าโดยสาร 1-2 บาท มีผล 3 ก.ค.นี้ เริ่มต้นราคาเดิม 17 บาท สูงสุด 45 บาท ด้าน "สุรพงษ์" เร่งแก้ปัญหาพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อน รถไฟความเร็วสูงช่วง "กรุงเทพฯ-โคราช และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน" หวั่นกระทบเปิดให้บริการรถไฟไทย-จีนปี 71 ส่วนต่อขยายไทย-จีน ช่วงโคราช-หนองคาย มั่นใจเปิดประมูลปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTB (อินโนเวสท์ เอกซ์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 81 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 โต 7% YoY จาก NIM และ non-NII เพิ่มขึ้น ขณะที่ Valuation ถูก และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลดี ส่วนความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรีพย์ต่ำ และกำไรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก Credit cost ที่ลดลง และยังมอง NIM ยังอยู่ในระดับสูงจากการที่ดอกเบี้ยนโยบายยังทรงตัว แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 22 บาท
- BDMS (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 33.10 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจน upside เปิดน่าสนใจ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งจากผลประกอบการที่ยังเติบโตต่อเนื่อง พร้อมกับมีแผนการเปิดโรงพยาบาลในเครือใหม่เพิ่ม ทำให้มีรายได้ใหม่เข้ามาเสริมต่อเนื่อง
- KCG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 ยังแข็งแกร่ง และในครึ่งปีหลังของปี 67 แม้ต้นทุนเนยและชีสโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ชดเชยด้วยการเปิด Logistic Park ที่ช่วยลดต้นทุนได้