นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้มีโอกาสขยับขึ้นได้เพราะตลาดต่างประเทศค่อนข้างบวกแรง มองว่าตัวที่จะช่วยพยุงตลาดขึ้นไปคือการเก็งกำไรในส่วนของหุ้น Commodity เนื่องจากเหตุพายุหรือแผ่นดินไหวที่เข้ามาจะเป็นส่วนที่ช่วยลดซัพพลายและไปกระตุ้นดีมานด์ให้ขยับขึ้นไปอีกจึงจะมีการเก็งกำไรพวกเหล็ก พืชน้ำมันต่อเนื่องรวมถึงราคาน้ำมันด้วย ดังนั้นหุ้นกลุ่มพวกนี้จะช่วยพยุงตลาดให้ขยับขึ้นได้
แต่การปรับขึ้นคงไม่มากนักยังต้องระวังอยู่เพราะวันนี้ต้องโฟกัสที่ตลาดเอเชียมากขึ้นว่า impact กับแผ่นดินไหวที่จีนกระเทือนตลาดไหน อย่างไรบ้าง
"โดยรวมดัชนีมีโอกาสขยับขึ้นได้แต่คงไม่มากแนวต้าน 850 จุด ซัพพอร์ตที่ 835 จุด เอเชียเช้านี้ญี่ปุ่นเปิดบวกเล็กน้อย 0.74% จีนลบไป 2.8%" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(12 พ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,876.31 จุด เพิ่มขึ้น 130.43 จุด(+1.02%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,403.58 จุด เพิ่มขึ้น 15.30 จุด(+1.10%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,488.49 จุด เพิ่มขึ้น 42.97 จุด (+1.76%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,092.11 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 124.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าจดทะเบียนในตลาดตราสารหนี้รวม 2.5 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่อายุ 14 วัน โดยคิดเป็นการขยายตัวสูงถึง 93% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2550 ที่มีเพียง 1.3 ล้านล้านบาท และถือว่าเกินกว่า 50% ของพันธบัตรที่ออกในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 4 ล้านล้านบาท
- บาทอ่อนค่าในรอบ 2 เดือนครึ่งแตะ 32.22 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพราะผู้นำเข้าน้ำมันแห่ซื้อดอลลาร์เพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันพุ่งสูงลิ่ว 126.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแถมเข้าช่วงซีซั่นแจกปันผลบจ. คาดตลอดสัปดาห์นี้น้ำมันโลกพุ่งไม่หยุดยังกดดันฉุดบาทอ่อนยวบแตะ 32.40-32.50 บาทต่อดอลลาร์กลุ่มส่งออกยังรับอานิสงส์มากสุด
- มติ กอน.ฉลุย ออกระเบียบว่าด้วยเงื่อนไขการจัดเก็บเงินทุกเม็ดจากโรงงานน้ำตาลทั้งหมดเข้ากองทุนอ้อยฯ ตามมติ ครม.ขึ้นราคาหน้าโรงงาน 5 บาทต่อ กก. มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 30 เม.ย. ปัดข้อเสนอกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่ขอใช้น้ำตาลโควตา ค. เป็นกรณีพิเศษเหตุขึ้นน้ำตาลไม่รู้ตัวกระทบต้นทุนเพิ่ม
- นักวิเคราะห์จาก 6 ใน 11 คาดการณ์ว่าราคาน้ำตาลทรายดิบจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 1% เป็น 11.61 เซนต์ต่อปอนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ 5 ใน 10 คน คาดว่าราคาน้ำตาลทรายขาวจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้เช่นกัน หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 1.9% เป็น 333.20 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับราคาถั่วเหลืองก็น่าจะปรับตัวขึ้นเช่นกัน เนื่อง
จากเกษตรกรผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดในโลกนัดหยุดงานประท้วงเป็นเวลา 8 วัน จากการที่รัฐบาลออกมาตรการภาษีส่งออกใหม่
- คำสั่งต่อเรือใหม่กว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ถูกยกเลิกและบางส่วนถูกเลื่อนออกไป (คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 94% ของรายได้ทั้งปีของบริษัทฮุนได ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก) เนื่องจากปัญหาสินเชื่อที่ค่อนข้างตึงตัวมากในขณะนี้ อ้างอิงจาก Tobias Backer หัวหน้าแผนกเรือเดินสมุทรที่ฟอติส
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--