นักวิเคราะห์ฯ ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งประคองตัวเหนือ 1,300 จุด โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังแนวโน้มการเลือกตั้งในอังกฤษ พรรคแรงงาน (Labour Party) ซึ่งมีนโยบายผลักดันการเติบโตเศรษฐกิจมีโอกาสชนะ เป็นจิตวิทยาบวกอ่อน ๆ ให้ตลาดหุ้นเอเชีย ขณะที่ในประเทศรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเช้านี้ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในสัปดาห์หน้า โดยให้กรอบแนวรับ 1,295 จุดและแนวต้าน 1,315 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งประคองตัวเหนือ 1,300 จุด โดยสัญญาณค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่าลงมา เนื่องจากทิศทางการเลือกตั้งรัฐสภาในอังกฤษมีแนวโน้มที่พรรคแรงงาน (Labour Party) ซึ่งมีนโยบายด้านการเติบโตเศรษฐกิจอาจชนะพรรคอนุรักษนิยม (Conservative Party) ที่ครองอำนาจมายาวนาน 14 ปี ทำให้สกุลเงินปอนด์แข็งค่ากดดันเงินดอลลาร์ เป็นจิตวิทยาบวกอ่อน ๆ ให้กับตลาดหุ้นเอเชีย
ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ที่จะแถลงเช้านี้อยู่ที่ 1.5% ซึ่งตลาดคาดจะชะลอลงมาที่ 1% รวมทั้งคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะกองทุน Thai ESG
โดยให้กรอบแนวรับ 1,295 จุดและแนวต้าน 1,315 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (4 ก.ค.67) ปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 18,035.77 จุด เพิ่มขึ้น 7.49 จุด หรือ +0.042%, ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ 41,009.36 จุด เพิ่มขึ้น 95.71 จุด หรือ +0.23% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,954.37 จุด ลดลง 3.20 จุด หรือ -0.11%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ค.67) 1,301.04 จุด เพิ่มขึ้น 6.34 จุด (+0.49%) มูลค่าซื้อขายราว 29,738.04 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,358.95 ล้านบาท (4 ก.ค.67)
- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ค.67) อยู่ที่ 4.07 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.61/62 ทรงตัวไร้ปัจจัยใหม่ รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐคืนนี้
- ราคารถยนต์ดิ่งต่อเนื่อง "นักเศรษฐศาสตร์" ชี้สะท้อนกำลังซื้อระดับกลาง-ล่างอ่อนแอ หวั่นลามกระทบการบริโภค การจ้างงาน การผลิตวูบห่วงราคารถร่วง กระทบผู้บริโภคตัดสินใจทิ้งรถ มองผ่อนต่อไม่คุ้ม "ทีทีบี" ชี้ตลาดรถยนต์ตกต่ำรอบ 15 ปี หนี้ครัวเรือนสูงฉุดกำลังซื้อ-ปล่อยกู้ตกต่ำ
- ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ระบุศักยภาพเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 3% อัดมาตรการกระตุ้นไม่ช่วยเศรษฐกิจโตกว่าเดิม ชี้ต้องเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง เพิ่มลงทุนและเทคโนโลยีใหม่ แต่ไม่ปิดประตูปรับดอกเบี้ยนโยบายหากมีการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ-เงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ ชี้ปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสมตามคาดการณ์ ส่วนการปรับกรอบเงินเฟ้ออาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ กระทบตลาดบอนด์ยีลด์เพิ่มขึ้น ภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันถือว่าชะลอตัวลงจากการเติบโตได้ต่ำกว่าศักยภาพปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้ภาคธุรกิจและภาครัฐที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องเข้าใจปัญหาตรงกันและช่วยกันแก้ไขสถานการณ์ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง
- คลังให้ ปชช.ยืนยันตัวตนใช้สิทธิ 'เป๋าดิจิทัล' ล่วงหน้าผ่านแอป 'ทางรัฐ' ก่อนเปิดลงทะเบียนจริงอนุฯถกเกณฑ์ร้านเข้าร่วมวันนี้ 'สุริยะ'รอ'ดูไบ พอร์ตเวิลด์'ชงแผนเมกะโปรเจ็กต์โลจิสติกส์ ชี้บิ๊กเบิ้มกว่า'แลนด์บริดจ์'
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผย ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (1 ม.ค.-30 มิ.ย.) พบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสมกว่า 17.5 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 8.25 แสนล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- KCE (ฟินันเซียไซรัส) "ซื้อ" ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 50 บาท แนวโน้มกำไรปี 67 ดูดีกว่าที่เคยมอง คาดกำไรสุทธิ 574 ล้านบาท +11% 9-9, +53% y-y หากตัด FX ออกคาดกำไรปกติ 524 ล้านบาท +25% q-9, +64% y-Y ยังไม่รวมกำไรขายโรงงานบางปู แม้รายได้ยังไม่น่าตื่นเต้นแต่แรงหนุนมาจากผลบวกการลดต้นทุน โดยเฉพาะเคมีภัณฑ์ ช่วยหนุน Gross Margin เพิ่มเป็น 24.6% สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส แนวโน้ม H2/67 คาดเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะ Gross Margin ยังขยับขึ้นต่อจากผลลดต้นทุน ขณะที่ราคาทองแดงที่สูงขึ้นยังอยู่ในวิสัยที่จัดการได้ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 67 ขึ้น 17% เป็น 2.3 พันล้านบาท +39% y-y
- CBG (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 91.00 บาท ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 24% ในไตรมาส 2/67 จาก 23.4% ในไตรมาส 1/67 เริ่มสะท้อนผ่านงบในช่วงไตรมาส 3/67 เป็นต้นไปหลังผ่านช่วงบริหารสต็อกของคู่ค้าให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม ขณะที่เราคาดรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 687 ล้านบาท (+43% YoY, +9%Q0Q) หนุนจากรายได้ที่เติบโต 9%YOY โดยหลักๆ มาจากยอดขาย CLMV ที่ดีขึ้น
- TU (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 18 บาท ราคาเฉลี่ยปลาทูน่าในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 1,478 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (+10.9% Q0Q) เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/67 ที่ 1,350 ล้านบาท (+5.5% YOY, + 49.9% Q0Q) ประมาณการกำไรครึ่งปีแรกของปี 67 ของเราคิดเป็น 41.6% ของประมาณการทั้งปี 67 ปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 15.9 บาท หลังจากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและปรับปีฐานการประเมินมูลค่าไปในช่วงกลางปี 68