นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สรุปรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติผลการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ แล้ว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี สอบถามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะบรรจุวาระการพิจารณาของ ครม.ได้ในวันอังคารที่ 16 ก.ค. 2567 ซึ่งขณะนี้คาดว่า ไม่น่ามีปัญหาติดขัดแล้ว ซึ่งหลังครม.อนุมัติ ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็พร้อมลงนามสัญญากับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้ได้รับการคัดเลือกต่อไป
ทั้งนี้ หลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำตัดสินยืนตามศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้องในคดี บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) (บริษัทในกลุ่มบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)) ฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนรัฐและเอกชน 2562 และ รฟม. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2567 จากนั้น รฟม.ได้เสนอผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุดมาที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีระยะเวลาในการพิจารณาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยได้ดำเนินการตามที่กำหนดไว้เรียบร้อย
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทางรวม 35.9 กิโลเมตร มีจำนวน 28 สถานี แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ สายสีส้ม ส่วนตะวันออก (ช่วงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-สถานีสุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร มี 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และยกระดับ 7 สถานี) การก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% หลังลงนามสัญญา BEM รฟม. จะเร่งรัดดำเนินการติดตั้งระบบและจัดหาขบวนรถเพื่อเร่งเปิดเดินรถด้านตะวันออกภายในเดือนพฤษภาคม 2571
ส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กม. จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย) BEM จะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างและติดตั้งระบบรวม 5-6 ปี