นายภากร ปีตะธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงกรณีช่วงที่ผ่านมาผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งถูกบังคับขายหุ้น (Force Sell) ซึ่งเกิดจากนำหุ้นที่ตัวเองถือไปวางบัญชีมาร์จิ้น โดยปัจจุบันตลท.อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าวให้มากขึ้นและมีความโปร่งใส
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลท. กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์มีการเปิดเผยข้อมูลหลักทรัพย์ที่วางเป็นหลักประกัน การชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้น ซึ่งจะมีการรายงานทุก ๆ 1 เดือน ซึ่งจะพิจารณาความถี่ในเปิดเผยข้อมูลให้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่ามีธุรกรรมบางส่วนที่เป็น Share Financing หรือการนำหลักทรัพย์วางเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินในสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้มีการรายงานต่อก.ล.ต. เนื่องจากไม่ได้เป็นการนำหลักทรัพย์ไปวางมาร์จิ้นกับบริษัทหลักทรัพย์
"มันเป็น Money Game อย่างหนึ่ง เราพบว่ามีการทำธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งเป็นธุรกรรมที่ไม่ได้รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์ แต่พบจากข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียนเริ่มเปิดเผยมาเอง"
ซึ่งตลท.อยู่ระหว่างการหารือหาแนวทางเพื่อทำให้การทำธุรกรรมดังกล่าวต้องมีการรายงาน หรือหากทำไม่ได้ต้องมีการแก้ไขกฎเกณฑ์หรือไม่ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดเผยมากขึ้นทำให้นักลงทุนมีข้อมูลในการพิจารณาการลงทุน
อนึ่ง ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมหุ้นถูกบังคับขาย (Force Sell) ที่เกิดจากผู้บริหารหลายแห่งนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันบัญชีมาร์จิ้น อาทิ บมจ.เน็กซ์พอยท์ (NEX), บมจ.พลังงานบริสุทุธิ์ (EA) และล่าสุด บมจ.อิ๊กคราซิล กรุ๊ป (YGG) ส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลงฟลอร์ติดต่อหลายวัน และจนถึงวันนี้ราคายังไม่ฟื้นกลับเหมือนเดิม