บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) คาดว่ากำไรและรายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 51 จะปรับตัวดีขึ้นจากที่ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า 2 แห่งในช่วงไตรมาส 2/51 และยืนยันที่จะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการในปีนี้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน
ขณะที่เตรียมทบทวนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึมและโรงไฟฟ้าน้ำบากในลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอเลื่อนการส่งไฟฟ้าจากโครงการน้ำงึม 3 ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และทบทวนข้อเสนอขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเกาะกงให้กับทางกฟผ.หลังติงว่าสูงเกินไป รวมทั้งเตรียมพิจารณาขายทิ้งหุ้นโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ส่งออก เนื่องจากไม่ใช่ธุรกิจหลัก และยังมีปัญหาด้านวัตถุดิบ
นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ RATCH กล่าวว่า บริษัทมีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซเทอร์ไบน์ CCGT-11 เป็นเวลา 15 วันในช่วงเดือนมิ.ย. และโรงไฟฟ้าก๊าซเทอร์ไบน์ CCGT-12 เป็นเวลา 30 วัน ในช่วงมิ.ย.-ก.ค.51 ซึ่งการปิดซ่้อมบำรุงโรงไฟฟ้า 2 ชุด รวม 50 วัน จะส่งผลกำไรและรายได้ของบริษัทปรับตัวลดลง
"กำไรในไตรมาส 2 จะต่ำกว่างวดเดียวกันของปี 50 และในครึ่งแรกปี 51 คาดว่าผลประกอบการจะต่ำกว่าผลประกอบการครึ่งแรกของปี 50 ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการของบริษัททั้งรายได้และกำไรจะปรับตัวดีขึ้น" นายณรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการจ่่ายปันผลปีนี้จะยังคงนโยบายจ่ายไม่น้อยกว่างวดปี 50 ที่ 2.10 บาท/หุ้น
ส่วนโครงการไฟฟ้าราชบุรีพาวเวอร์ ขนาด 700 เมกะวัตต์ ชุดที่ 1 เริ่มผลิตแล้ว 1 มี.ค.51 ส่วนชุดที่ 2 ขนาด 700 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้มิ.ย.นี้ ซึ่งปีนี้คาดว่าโครงการราชบุรีพาวเวอร์จะสร้างรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท
*ทบทวนงบสร้างน้ำบาก-น้ำงึมหลังต้นทุนพุ่ง เล็งขายหุ้นรง.แอลกอฮอล์
นายณรงค์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาขายหุ้นในโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ที่ถือหุ้นอยู่ 15% เนื่องจากสัดส่วนการถือหุ้นน้อยเกินไป และโครงการนี้ล่าช้ามาจากแผนเดิม ประกอบกับวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งเป็นโมลาสก็หายาก
"กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่จากไต้หวัน ไม่ค่อยให้ความสนใจกับโครงการนี้ทำให้โครงการไม่คืบหน้า ถึงแม้จะสร้างเสร็จในเดือนก.ค. 51 แต่ไม่มีแผนที่จะผลิตเชิงพาณิชย์เลย อีกทั้งวัตถุดิบในการผลิตก็หายาก" นายณรงค์ ระบุ
โรงงานดังกล่าวมีแผนจะดำเนินการเชิงพาณิชย์และเสร็จสมบูรณ์ในเดือนก.ค.51 มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท กำลังผลิต 1 แสนลิตร/วัน หรือ ประมาณ 30 ล้านลิตร/ปี
ส่วนการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศนั้น ขณะนี้โครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึมในลาว มีความคืบหน้าแล้ว 50.5% คาดว่าน่าจะเสร็จตามกำหนด แต่คาดว่าโครงการน้ำงึม 3 อาจจะต้องเลื่อนส่งไฟฟ้าให้กับกฟผ.ออกไปจากแผนเดิมในปี 56 ไปเป็นปี 57 โดยอยู่ระหว่างยื่นขอกับ กฟผ. เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการก่อสร้างสายส่งของฝั่งรัฐบาลลาวที่ล่าช้า
นอกจากนั้น โครงการดังกล่าวยังจะมีการทบทวนงบลงทุนที่อาจปรับเพิ่มจากเดิมที่คาดว่าจะมีมูลค่าโครงการ 708 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น โดยอยู่ระหว่างปรับแผนลงทุน แต่การที่ RATCH ถือหุ้นเพียง 25% ดังนั้น การเพิ่มงบลงทุนขึ้นจะไม่ไ่ด้กระทบกับบริษัทมากนัก
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการน้ำบากในลาว ซึ่งเบื้องต้นพบว่ากำลังการผลิตอาจต้องปรับลดลงมาที่ 100 เมกะวัตต์ จากเดิมที่คาดไว้ 140 เมกะวัตต์ เชื่อว่าโครงการนี้คุ้มต่อการลงทุน และแม้ว่าปริมาณการผลิตไม่มากนัก แต่น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี และเงินลงทุนที่เดิมคาดว่าจะใช้ 1.26 หมื่นล้านบาทอาจปรับลดลงด้วย
ด้านโครงการโรงไฟฟ้าเกาะกงในกัมพูชา ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนข้อเสนอราคาค่าไฟฟ้าที่ได้ยื่นให้กับ กฟผ.หลังจากที่ติงมาว่าสูงเกินไป คาดว่าจะสรุปราคาในไตรมาส 3/51
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--