บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) หุ้นไก่แปรรูปพรีเมียมเน้นส่งออก เปิดขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 376,956,965 หุ้น ใช้อัพกำลังผลิตและต่อยอดธุรกิจใหม่ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในวันที่ 25 ก.ค.โดยราคา IPO อยู่ที่ 5.40 บาท
FM เป็นบริษัทโฮลดิ้งประกอบธุรกิจลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยมีธุรกิจหลักคือ ผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละคิดเป็น 62% ของรายได้ทั้งหมด และส่วนที่เหลืออีก 38% คือธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูป (Cooked-Added Value :: CAV Products) ซึ่ง หากแบ่งตามช่องทางจำหน่าย ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากการขายในประเทศอยู่ที่ 47% ส่วนที่เหลือกว่า 53% เป็นการส่งออกกว่า 10 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ยุโรป และ สิงคโปร์ เป็นต้น
บริษัทยังเตรียมแตกไลน์ธุรกิจใหม่ที่เป็นเทรนด์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในยุคปัจจุบน คือ อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) เพื่อเป็นช่องทางการนำ By Product จากกระบวนการแปรรูปไก่เนื้อให้เกิดมูลค่าสูงสุด โดยจะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ดำเนินการผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่อยู่ในธุรกิจนี้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี่เปิดเจรจาราว 2-3 ราย
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายของแผนธุรกิจ 3-5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปจากเดิม 38% ให้ขึ้นมาเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ส่วนอีก 40% ที่เหลือจะมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ
พร้อมทั้งตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ในช่องทางส่งออกจาก 53% ให้ขึ้นมาเป็น 65% ด้วยการดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และเพื่อซัพพอร์ตเป้าหมายดังกล่าว บริษัทได้วางกลยุทธ์การหาตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งตลาดใหญ่สุด คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก เป็นผู้นำเข้าไก่จากทั่วโลกที่ติดระดับ Top10 ของโลก
"แต่เดิมไก่จากประเทศไทยส่งเข้าไปได้น้อยมาก ๆ ด้วยข้อจำกัดเรื่องการค้าระหว่างประเทศต่าง ๆ แต่ปีนี้ก็เป็นข่าวดีที่ว่า มีการปลดล็อกข้อจำกัดตรงนั้น และตอนนี้เราได้เริ่มพูดคุยกับกลุ่ม Importer รายใหญ่แล้ว ก็คิดว่าประมาณไตรมาส 4/67 น่าจะเริ่มส่งเนื้อไก่ดิบแช่แข็งได้ และสำหรับปีหน้าก็จะขยายไปในส่วนของไก่แปรรูป" นายณัฐพลกล่าว
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ตลาดถัดมาที่น่าจะเข้าไปได้ในปีหน้า ก็คือ ฟิลิปปินส์ และ ซาอุดีอาระเบีย ที่ทั้งสองประเทศก็เป็นผู้นำเข้าไก่จากทั่วโลกที่ติดระดับ Top10 และในอดีตไก่ไทยก็ส่งเข้าไปได้น้อยมาก ๆ เช่นกัน แต่ตอนนี้ทิศทางการค้าระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายภาครัฐ ก็มีความชัดเจนขึ้น ก็เป็นโอกาสที่สดใสของไก่ไทยที่จะเข้าไปเจาะตลาดในสองประเทศนี้ด้วย
ขณะที่นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน FM กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนแรกจะใช้เพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงเชือดและชำแหละไก่ ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 144,000 ตัว/วัน ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 180,000 ตัว/วัน
ขณะที่เงินระดมทุนส่วนที่สองจะใช้เพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ของโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 27,000 ตัน/ปี เราก็ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้เป็น 36,000 ตัน/ปี ซึ่งแผนเพิ่มกำลังการผลิตของทั้งสองธุรกิจนี้จะเห็นภาพภายในปี 69
และเงินระดมทุนอีกส่วนหนึ่งจะใช้ลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ ปัจจุบันธุรกิจไก่ชำแหละจะมี By product อย่างโครงกระดูกไก่และเครื่องในไก่ ซึ่งเรามองเห็นว่าสองชิ้นส่วนนี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้หากเราสามารถแปรรูปให้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง
"เรากำลังเล็งหาพันธมิตรในการลงทุนผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ที่สามารถนำเอาโครงกระดูกไก่และเครื่องในไก่มาเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตได้ โดยพันธมิตรของเราจะต้องมีโรงงานการผลิตอยู่แล้ว รวมถึงมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรอยู่ 2-3 ราย คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ประมาณปี 69 แล้วก็อาจจะเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนจากธุรกิจนี้" นายสุเมธ กล่าว
*FM คือใคร ? (นาทีที่ 0.56 - 2.07)
*FM กับข้อได้เปรียบทางธุรกิจ (นาทีที่ 2.08 - 3.49)
*FM กับความเสี่ยงทางธุรกิจและแผนรับมือ (นาทีที่ 3.50 - 4.53)
*FM กับแผนระดมทุน (นาทีที่ 4.54 - 6.45)
*FM กับแผนธุรกิจระยะยาว 3-5 ปี (นาทีที่ 6.46 - 9.43)
*FM ทำไมนักลงทุนต้องซื้อหุ้นของ FM (นาทีที่ 9.44 - 11.06)
https://youtu.be/abUwOISR9AM