โบรกฯ แนะรอติดตามการชี้แจง ตลอดจนเลี่ยงลงทุนหุ้น บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)จากกรณีทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีมติถอด EA ออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.67
และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น EA จนกว่าจะชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 67 และแนวทางที่ชัดเจนในการชำระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัท
บล.ดาโอ ระบุว่า การที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษกรรมการ-ผู้บริหาร EA กับพวก รวม 3 ราย ต่อ DSI กรณีทุจริตฯ เราประเมินว่าจะมีผลลบต่อราคาหุ้น EA โดยตรง เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงทั้งสองคนนั้นมีความสำคัญต่อการบริหาร นอกจากนี้ อาจกระทบไปถึงหุ้นในกลุ่ม EA ตัวอื่นๆ ด้วย จึงแนะนำเลี่ยงหุ้น EA, NEX, BYD ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ด้าน บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) มองว่าในกรณีนี้จะมีผลต่อการลงทุนของกองทุนที่ถือหุ้น EA อยู่ จำเป็นต้องขายออกมาและไม่สามารถลงทุนใหม่ได้ ในขณะที่แบงก์ไทยที่ปล่อยกู้ EA อาจจะต้องตั้งสำรองการจัดชั้นขึ้น Stage 2 หรือจัดชั้นเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้การ rollover หุ้นกู้ในเดือนนี้ของ EA อาจจะสะดุดได้ คาดว่าน่าจะมีการเลื่อนการขายหุ้นกู้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากนี้ไป DSI จะทำการสืบสวน สวบสวน คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือนเพื่อสรุปเรื่องว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
บล.กสิกรไทย ระบุ กรณีที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษ มีความเกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA แต่เชื่อว่าการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมยังไม่ได้รับผลกระทบ โดยยังสามารถ Operate ได้อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นรายได้จากโรงไฟฟ้าดังกล่าวยังรับรู้ตามปกติ
ขณะที่ก็ต้องยอมรับว่าการกล่าวโทษดังกล่าวกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้น EA มีความผันผวนสูง และในระยะสั้นต่อจากนี้ หรือวันที่ 23-25 ก.ค.นี้ ทาง EA มีแผนที่จะออกหุ้นกู้มูลค่า 5,500 ล้านบาท เพื่อ Rollover หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดอายุ โดยในเดือนส.ค. มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระราว 1,500 ล้านบาท และ 4,000 ล้านบาทในเดือนก.ย. มองว่าอาจเป็นความเสี่ยงเกี่ยวกับการออกหุ้นกู้ได้ ขณะที่ปัจจุบัน EA มีเงินสดในมือราว 2,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ต้องติดตามดูต่อว่า EA จะ Rollover หุ้นกู้ได้หรือไม่ หากไม่ได้คาดว่าส่งผลต่อสภาพคล่องของบริษัทฯ
ดังนั้นแนะนักลงทุนรอการชี้แจงจากทางบริษัทฯ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ทั้ง 1.การตรวจสอบว่าผู้บริหาร EA มีความผิดจริงหรือไม่ 2.การ Rollover หุ้นกู้จะดำเนินการได้หรือไม่
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า โดยรวมทางฝ่ายมองว่านักลงทุนอาจต้องพิจารณารอการชี้แจงจากบริษัท
ประเด็นเกี่ยวกับสภาพคล่อง สำหรับหุ้นกู้ปีนี้จะครบกำหนด 3 รุ่น โดย 1,500 ล้านบาท ครบกำหนด 15 ส.ค.นี้ และ 4,000 ล้านบาท 29 ก.ย.67 จากการระบุของ ThaiBMA มองว่าความกังวลยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากบริษัทยังไม่เคยขาดทุน และมีเงินสดในมือประมาณ 2,000 ล้านบาท รวมถึงคาดว่ายังมีเงินกู้ที่ยังไม่เบิกใช้อยู่ อย่างไรก็ตามยังขึ้นอยู่กับการเจรจาและความสามารถในการสร้างรายได้ของบริษัทด้วย โดยทางฝ่ายมองว่า ประเด็นนี้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการออกหุ้นกู้ใหม่ หากยังไม่มีการอธิบายถึงแหล่งที่มาของการชำระที่ชัดเจน
นอกจากนี้ จากงบการเงินของ EA ณ Q1/67 มีเงินกู้กับสถาบันการเงินรวม 31 พันล้านบาท ซึ่งจากงบการเงินของ EA มองว่า EA ยังสามารถชำระดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน รวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ได้ โดยใน Q1/67 EA มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ 645 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินสดถึง 2.2 พันล้านบาท และมีกำไร 689 ล้านบาท แต่ความไม่แน่นอนอาจทำให้ธนาคารมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองสินเชื่อที่ปล่อยให้กับ EA ไว้ก่อน
โดยจากการตรวจสอบของทางฝ่ายมีชื่อ ADB EXIM Jaica TTB Mizuho และ SCB เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับ EA และธนาคารอื่นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งหากมีการตั้งสำรองน่าจะกระทบกับงบการเงิน Q3/67 ของธนาคารดังกล่าวได้