AIT คาดบ.ร่วมทุนญี่ปุ่นเริ่มบริการ H2/51,เล็งหาพันธมิตรขยายธุรกิจ ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 13, 2008 16:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี(AIT) กล่าวว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานร่วมทุนกับ บริษัท Sojitz Corporation จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อประกอบธุรกิจด้านบริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องและระบบสื่อสารสารสนเทศ ภายใต้บริษัท เซอร์วิสโปร จำกัด 
ทั้งนี้ AIT ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวในสัดส่วน 70% และบริษัท Sojitz Corporation จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 30% โดยใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 40 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงหลังของปีนี้ บริษัทเชื่อว่าธุรกิจบริการนี้จะทำให้ผลประกอบการในอนาคตของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"เราขยับเป้ารายได้ในปีนี้เป็น 3,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ส่วนการรับงานหรือเข้าประมูลงานใหม่ก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกันทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน" นายศิริพงษ์กล่าว
ส่วนแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมการทางการตลาดในสินค้า GIS ซึ่งบริษัทฯประสบความสำเร็จยิ่งภายในประเทศ และเห็นความจำเป็นที่ต้องใช้งานลักษณะเดียวกันในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเราเชื่อว่าเราเข้าใจความต้องการของตลาดเอเชียมากกว่า ด้วยราคาและต้นทุนการผลิตที่ได้เปรียบคู่แข่งจากประเทศตะวันตก โดยระยะแรกเราเล็งตลาดในประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนาม
นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า ในปี 51 บริษัทคงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,646 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง เนื่องจากในไตรมาสแรกสามารถรับรู้รายได้สูงถึง 45 % ของเป้า ประกอบกับงานที่กำลังดำเนินการที่รอรับรู้รายได้ในไตรมาสต่อๆไปยังมีอีกจำนวนมาก นอกจากนั้นบริษัทฯยังยื่นงานประมูลทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง และในเวลาที่เหลืออีกแปดเดือน คาดว่าจะได้งานมากพอที่จะเป็นรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ และเป็น Backlog ของปีหน้าต่อไป
AIT แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2551 (มกราคม-มีนาคม 2551) บริษัทมีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66 ล้านบาทเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 39.52 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 169%
ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2550 ที่มีรายได้ 462 ล้านบาท โดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากบริษัทฯ สามารถรับรู้มูลค่างานในมือ (Backlog) จากปีที่ผ่านมามูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท จากมูลค่างานในมือปัจจุบันที่มีอยู่ กว่า 2,500 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ