นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) เปิดเผยมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนไตรมาส 3/67 หลังปัจจัยเสี่ยงเชิงลบที่เผชิญมาตลอดช่วงครึ่งแรกของปี เริ่มคลี่คลาย พร้อมกับแทนที่ด้วยปัจจัยบวกเริ่มต้นจาก 1.กระแสเงินทุนไหลออกของนักลงทุนต่างชาติ (Fund Outflow) ชะลอลง เนื่องจากเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี โดย KTX ประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งช่วงไตรมาส 4/67
และ 2. เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ผ่านการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ขณะที่การส่งออกฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากสินค้าคงคลังที่ลดระดับลง ซึ่งหนุนให้อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นปี 67 ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต่ำสุด -11.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในเดือน ก.ย.66 ขึ้นมาเหลือเพียง -1.1%YoY ในปัจจุบัน
ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ SET Index มีโอกาสปรับตัวเข้าหาระดับศักยภาพที่ 1,567 จุดภายในไตรมาส 3/67 ด้วยสมมติฐาน ดังนี้
1.ประมาณการกำไรสุทธิ (KTX Top down analysis) ของ SET ระยะ 12 เดือนข้างหน้าที่ 108.6 บาทต่อหุ้น
2.ประมาณการอัตราชดเชยความเสี่ยงตลาด (Market risk premium) ที่ระดับ 4.02% ลดลงจากระดับ 4.79% ณ สิ้น ไตรมาส 2/67 สอดคล้องกับมุมมองความกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยเริ่มลดลง เมื่อเข้าสู่ช่วงกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
3.อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง อิงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ 2.91% ขยับขึ้นจาก 2.69% ณ สิ้นไตรมาส 2/67
4.การออกมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นไทยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกระทรวงการคลัง เช่น การจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ การปรับเกณฑ์การทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) ฯลฯ ตลอดจนการปรับเกณฑ์ Uptick Rule (ขายชอร์ตได้เมื่อราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย) มาใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2567 เพื่อลดปริมาณการทำชอรต์เซล ซึ่งป็นปัจจัยถ่วงดัชนีฯ ในช่วงที่ผ่านมา
KTX แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน และต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับสถิติในอดีต ได้แก่ MINT CPALL BEM BDMS ADVANC