ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) (CGSI) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เตรียมเข้าทำธุรกรรมการควบรวมระหว่าง GULF กับ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) โดยจะมีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมในอัตรา 1 หุ้นเดิมใน GULF ต่อ 1.02974 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นในบริษัทใหม่
ทั้งนี้ GULF, INTUCH และผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นในบริษัท ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ แบบมีเงื่อนไข (VTO) ของ ADVANC และ THCOM โดยราคาเสนอซื้อหุ้นของ ADVANC ที่ 216.30 บาท/หุ้นและของ THCOM ที่ 11.00 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของ INTUCH ยังอนุมัติจ่ายเงินปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น INTUCH ในอัตรา 4.50 บาท/หุ้น จะจ่ายก่อนธุรกรรมการควบรวมบริษัท
GULF และ INTUCH จะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 ต.ค.67 เพื่อขออนุมัติการทำธุรกรรม ขณะที่บริษัทใหม่จะจัดตั้งขึ้นในไตรมาส 2/68 เพื่อรับโอนสินทรัพย์, หนี้สิน, สิทธิ, หน้าที่ และความรับผิดชอบของ GULF และ INTUCH ทั้งหมดตามกฎหมาย
หลังควบรวมบริษัท ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GULF (กลุ่มของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี) จะถือหุ้น 59.72% ในบริษัทใหม่ ส่วน Singtel จะถือหุ้น 9.08% ขณะที่หุ้นที่เหลืออีก 31.20% จะถือโดยประชาชนทั่วไปและนักลงทุน ขณะที่บริษัทใหม่และ Singtel จะถือหุ้น 40.44% และ 23.31% ใน ADVANC ตามลำดับ
การควบรวมบริษัทจะช่วยลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้น รวมทั้งสร้างพอร์ตธุรกิจที่มีความสมดุล ของรายได้และกำไรจากธุรกิจพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัล นอกจากนี้ ยังทำให้บริษัทใหม่มีรูปแบบการทำธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน, มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้น และมีโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมในการจัดหาเงินทุนเพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์และโอกาสเติบโต
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่าการเปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ADVANC จะไม่กระทบกลยุทธ์การทำธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทในปี 67-69 โดย ADVANC จะมีบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน INTUCH ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นบริษัทอยู่ 40.44% ส่วน Singtel จะยังถือหุ้นเท่าเดิมที่ 23.31%
ยังแนะนำ "ซื้อ" หุ้น ADVANC เนื่องจากมองว่าธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจบรอดแบนด์มีการแข่งขันน้อยลง รวมทั้งคงราคาเป้าหมายตามวิธี DCF อยู่ที่ 259 บาท แต่ ADVANC อาจมี downside risk หากการบริโภคภาคเอกชน ชะลอตัวและบริษัทโทรคมนาคมกลับมานำเสนอโปรเน็ตไม่จำกัดไม่ลดสปีด ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นคือผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 2-4/67 และการปรับเพิ่มเป้าในปี 67