ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 2.94 จุด แรงขายทำกำไรพลังงาน-ปิโตรฯ กดดัชนีปรับลง

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 839.28 จุด ลดลง 2.94 จุด(-0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 19,278 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า จากนั้นช่วงบ่ายปรับตัวลดลง โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 848.48 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 837.86 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 133 หลักทรัพย์ ลดลง 207 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 115 หลักทรัพย์
          น.ส.อาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งไปแกว่งมาโดยรวมตลาดยังอยู่ในภาวะดีอยู่ แต่ที่เป็นลบเพราะแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ในตลาดฉุดให้ดัชนีลดลง แต่แรงซื้อในกลุ่มแบงก์ อสังหาริมทรัพย์ถือว่ายังแข็งแกร่ง 
          "โดยรวมยังอยู่ในภาวะดี พลังงานกับปิโตรเคมีปรับลงเพราะปรับฐานตามราคาน้ำมันดิบส่วนหนึ่งด้วยและราคาหุ้นก็ปรับขึ้นมาเยอะพอสมควรมี take profit ตามมาด้วย อย่าง BANPU PTTEP ราคาลงมาก็เป็นราคาที่มีการอ่อนตัวลงบ้างใน Sport ส่วนจีนที่สั่งปิดเหมืองถ่านหินชั่วคราว อาจจะเป็นแค่ short term และบ้านปูเหมืองอยู่ที่อินโดนีเซียไม่ได้เกี่ยวกับที่จีน"น.ส.อาภาพร กล่าว
          แนวโน้มพรุ่งนี้คิดว่ายังเคลื่อนตัวในกรอบประมาณนี้อยู่ และสำหรับทั้งสัปดาห์นี้กรอบแนวรับยังเหมือนเดิมทุกวันแนวรับ 835 และ 830 จุด แนวต้านอยู่ที่ 850 บวก ลบ 5 จุด ปัจจัยที่ต้องจับตาเป็นเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ผลประกอบการทั้งในและต่างประเทศและเรื่องของราคาน้ำมัน
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,947.13 ล้านบาท ปิดที่ 183.00 บาท ลดลง  6.00 บาท
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,478.42 ล้านบาท ปิดที่ 340.00 บาท ลดลง  6.00 บาท
          BANPU มูลค่าการซื้อขาย   873.61 ล้านบาท ปิดที่ 440.00 บาท ลดลง  8.00 บาท
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย   803.60 ล้านบาท ปิดที่  87.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
          PTTAR มูลค่าการซื้อขาย   769.06 ล้านบาท ปิดที่  31.50 บาท ลดลง  0.50 บาท