TOP ปรับลง 2.87% มาที่ 50.75 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 128.86 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.04 น.จากราคาเปิด 52.00 บาท ราคาต่ำสุด 50.50 บาท ราคาสูงสุด 52.00 บาท
บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ชี้แจงว่า ตามที่มีข่าวปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ว่ามีกลุ่มผู้ใช้แรงงานจำนวนหนึ่งไม่ได้รับค่าจ้างตามกำหนด รวมตัวประท้วงบริเวณหน้าโรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบของบริษัทฯ พบว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานดังกล่าวเป็นพนักงานของ บริษัท ซิโนเพค เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (SINOPEC) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาช่วงของกิจการร่วมค้า Unincorporated Joint Venture of Petrofac, Saipem, Samsung (UJV) ที่เป็นผู้รับเหมาหลักและเป็นผู้ว่าจ้าง SINOPEC ในการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ให้กับ บริษัทฯ ได้มารวมตัวกันเรียกร้องค่าจ้างจาก SINOPEC ทั้งนี้ เนื่องจาก SINOPEC อ้างว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญาที่มีกับ UJV
โดยเมื่อเวลา 14:00 น. บริษัทฯ ได้ประสานให้มีการหารือร่วมกันระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ใช้แรงงานของ SINOPEC หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี สำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี สำนักงานปลัดอำเภอศรีราชา และ UJV แต่การเจรจายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ทำให้ขณะนี้การชุมนุมประท้วงยังคงมีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการดูแลและมีบุคลากรที่มีความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยของโรงกลั่นฯ โดย บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า UJV และ SINOPEC จะสามารถบรรลุข้อตกลงและให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบทุกคน ในฐานะที่ UJV และ SINOPEC เป็นผู้ว่าจ้างกลุ่มผู้ใช้แรงงานดังกล่าว
ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า เรามีมุมมองเป็นกลางจากข่าวนี้ซึ่งเราเชื่อว่าการประท้วงนี้จะไม่ได้กระทบการดำเนินงานของโรงกลั่นของ TOP อย่างไรก็ดี หากการประท้วงยืดเยื้อเป็นระยะเวลานาน เราเชื่อว่าจะมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นที่โครงการ CFP อาจจะมีความล่าช้าออกไป
ในเบื้องต้น เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิ 2567 ที่ 1.52 หมื่นล้านบาท (-22% YoY) ลดลงตาม ค่าการกลั่นตลาด (market GRM) ที่ปรับสู่ระดับปกติมากขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง สำหรับภาพระยะสั้นเราประเมินว่า TOP จะรายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/67 ที่ 5.0 พันล้านบาท (+349% YoY, -14% QoQ) โดยกำไรสูงขึ้น YoY หลักๆจากการรับรู้กำไรจากสต๊อก (stock gain) ในขณะที่อ่อนตัว QoQ ตาม market GRM ที่น้อยลง
อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่า market GRM จะกลับมาฟื้นตัว QoQ ได้ในไตรมาส 3/67 ตามแนวโน้มพรีเมียมน้ำมันดิบ (crude premium) ที่อ่อนตัว ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายที่ 65.00 บาท อิง 2024E PBV ที่ 0.84x (เท่ากับ -1.00SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี)