(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวอิงบวกรับ Sentiment บวกตปท. แต่กังวล NPL แบงก์สูงขึ้น-ยอดขายรถหดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 26, 2024 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งตัวมีโอกาสบวกได้บ้าง โดยได้ Sentiment บวกจากดัชนีดาวน์โจนส์ที่ปรับตัวบวกหลังจากการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/67 ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีกว่าคาด แม้จะมีความผันผวนในดัชนี Nasdaq ต่อเนื่อง จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวแรงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาและผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาด

ขณะที่ในประเทศไร้ปัจจัยใหม่มีผลต่อดัชนี โดยยังถูกกดดันจากยอดขายรถยนต์เดือนมิ.ย.ลดลง รวมทั้งงบกลุ่มธนาคารที่มีแนวโน้ม NPL ช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มการเงินมีความน่าสนใจเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงแล้ว

นอกจากนี้สัปดาห์หน้ารอติดตามการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ TRUE ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าไตรมาส 2/67 จะยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ซึ่งหากงบออกมาดีอาจหนุนให้หุ้นในกลุ่มปรับตัวขึ้นตามไปด้วย

โดยให้กรอบแนวรับ 1,280 จุดและแนวต้าน 1,295 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,935.07 จุด เพิ่มขึ้น 81.20 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,399.22 จุด ลดลง 27.91 จุด หรือ -0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,181.72 จุด ลดลง 160.69 จุด หรือ -0.93%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 37,792.87 จุด ลดลง 76.64 จุด หรือ -0.20%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,079.67 จุด เพิ่มขึ้น 74.70 จุด หรือ +0.44% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,886.00 จุด ลดลง 0.74 จุด หรือ -0.03%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ค.) 1,291.58 จุด ลดลง 6.50 จุด (-0.50%) มูลค่าซื้อขาย 34,178.76
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 284.60 ล้านบาท (25 ก.ค.)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (25 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 78.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ค.) อยู่ที่ 4.84 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.21 อ่อนค่า หลังตัวเลขศก.สหรัฐดีกว่าคาด หนุนดอลลาร์แข็งค่า จับตาส่งออกไทย
  • บีโอไอ เผยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.67) การส่งเสริมการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน โดยตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีจำนวน 1,412 โครงการ เพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าเงินลงทุนรวม 458,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% สะท้อนถึงศักยภาพและพื้นฐานที่ดีของประเทศไทย
  • ส.อ.ท. ปรับประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 67 ใหม่อยู่ที่ 1.7 ล้านคัน จากเดิม 1.9 ล้านคัน หรือลดลง 200,000 คัน ปรับเป้าเฉพาะยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงจาก 750,000 คัน เป็น 550,000 คัน เนื่องจากปัจจัยลบจากหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ของจีดีพีประเทศ รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ การลงทุนจากต่างประเทศ
  • "บีทีเอส" ลุ้นศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดหนี้จ้างเดินรถส่วนต่อขยาย "รถไฟฟ้าสายสีเขียว" เม็ดเงินรวมสูงกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท อ่านคำพิพากษาคดีแรกวันนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท ลั่นหากได้รับชำระหนี้ จ่อนำไปจ่ายหนี้เสริมสภาพคล่อง พร้อมระบุเปิดกว้าง เจรจา กทม.หากต้องการขยายสัมปทานแลกหนี้ ด้าน กทม.เตรียมแผนจ่ายหนี้ค่าเดินรถ เล็งใช้ เงินสะสมที่มี 6.3 หมื่นล้านบาท

-"ภูมิธรรม" เผยเบื้องต้นเคาะร้านค้า 2 ล้านรายมีสิทธิ์ร่วม "ดิจิทัลวอลเล็ต" ตั้งเป้าจบใน 2 เดือน ส่วนสินค้าห้ามซื้อยังมีลุ้นตัดออก-นำเข้า "ประเสริฐ" เตือน ปชช.ระวังโดนหลอก ย้ำลงทะเบียนผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" เท่านั้น เล็งให้ "บุรุษไปรษณีย์" ช่วยลงทะเบียน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ITC (กรุงไทย เอ๊กซ์สปริง) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 22.90 บาท/หุ้น จากมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงาน 2H67 ในส่วนของยอดขายที่ยังเห็นการเติบต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดโลก จากการที่เห็นทิศทางของการสั่งผลิตกลับมามากขึ้น และมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่ายอดขายในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตได้ 2 หลัก
  • KTB (ไอร่า) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 19 บาท มองว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 67 มีโอกาสทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ จาก NIM ที่ยังจะรักษาระดับไว้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก และ KTB หันมาเน้นสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อภาครัฐ ที่ได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
  • GLOBAL (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 19.20 บาท ยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 67 ไว้ที่ 3 พันล้านบาท หรือเติบโต 13.60% จากปีก่อน จากแรงหนุนของยอดขายที่เพิ่มขึ้น 5.5% และยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ที่เติบโต 2% รวมถึงค่าใช้จ่ายไนการดำเนินงาน (SG&A) ที่ลดลง หนุนต่ออัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นได้ 0.50%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ