นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.ร่วมมือกับฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russel) สถาบันจัดทำดัชนีหลักทรัพย์จากประเทศอังกฤษในการประเมิน ESG Rating ให้กับ 47 ประเทศ รวมมากกว่า 8,000 บริษัท ซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดอันดับ ESG Rating ให้กับริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย เพื่อยกระดับ บจ.ไทยให้มีมาตรฐานและมีการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนตามหากและมาตรฐานเดียวกับสากล
ในปี 66 ที่ผ่านมานี้ มี บจ.ไทยที่เปิดเผยข้อมูล ESG จำนวน 884 บริษัท คิดเป็น 76% ของ บจ.ทั้งหมด และจากข้อมูลของ Morning Star มีการระบุถึงกองทุนด้าน ESG ในปี 66 มีจำนวนมากถึง 7,600 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมกว่า 2.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประเทศไทยมีกองทุนด้าน ESG รวม 124 กองทุน มูคล่ารวม 7.6 หมื่นล้านบาท
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ตลท.เตรียมตัวให้กับ บจ.ไทยปรับเข้าสู่แนวทางการประเมินร่วมกับฟุตซี่ รัสเซล เริ่มมาตั้งแต่ปี 65 และในปี 67 นี้เอง ก็เพิ่มการรายงานให้ได้ตรงตามมาตรฐานของฟุตซี่ รัสเซล มากยิ่งขึ้น เป็นรูปแบบการสมัครใจ ส่วนในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเป็นการบังคับให้การประเมินเป็นในลักษณะการประเมินผลการดำเนินงานร่วมกับการตรวจสอบและประเมินสาขาของธุรกิจนั้นๆ ประกอบด้วย ซึ่งปัจจุบันแต่ละ บจ.มีระยะเวลาเตรียมความพร้อมราว 1 ปีครึ่ง ก่อนที่จะใช้มาตรฐานเดียวกันในปี 69 นางพนอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การที่ตลาดทุนไทยมีการนำมาตรฐานสากลมาใช้ในการเปิดเผยข้อมูล ถือเป็นการสะท้อนภาพของตลาดทุนไทยที่สามารถดำเนินงานร่วมกับหลักมาตรฐานของสากลได้ ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพ และยกระดับตลาดทุนไทย ให้แก่นักลงทุนทุกประเภทเกิดความมั่นใจในการลงทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น
การสร้างความยั่งยืนตามหลัก ESG ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่าน 3 มาตรการ ได้แก่ การให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินการด้านความยั่งยืน การออกกฎระเบียบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และการส่งเสริมนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนใน บจ.ที่ดำเนินงานตามหลัก ESG ผ่านการสนับสนุนของกองทุน Thai ESG ที่มีอยู่รวม 32 กองทุน มูลค่า AUM รวม 7 หมี่นล้านบาท ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. 67 เพื่อตอกย้ำการส่งเสริมการยกระดับ ESG ของตลาดทุนไทยอย่างจริงจัง