บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ราคาหุ้นลงมาค่อนมากเปิด upside ขณะที่โบรกมองเป็นหุ้นพื้นฐานดี รอการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 4/67 เข้าไฮซีซั่นธุรกิจ อีกทั้งยังรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งมีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดี ทำให้มีกำไรดีต่อเนื่อง
HMPRO แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 1.62 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.62 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 67 มีกำไร 3,334.54 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,230.99 ล้านบาท
ราคาหุ้น HMPRO อยู่ที่ 9.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 2.26% เมื่อเวลา 12.10 น.
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ดาโอ ซื้อ 15.00 ทิสโก้ ซื้อ 14.10 พาย ซื้อ 13.90 ฟินันเซีย ซื้อ 13.60 บัวหลวง ซื้อ 12.50 ฟิลลิป ซื้อ 11.30
นักวิเคราะห์ฯ บล.พาย มองว่าราคาหุ้นของ HMPRO ลงไปค่อนข้างมาก ตรงข้ามกับพื้นฐานของธุรกิจที่ยังอยู่มนเกณฑ์ที่ดี จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจ และจากราคาที่ลงมามากแล้ว ทำให้เริ่มเห็น upside เปิดดว้างมากขึ้น เพื่อรอผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน หากเศรษฐกิจไทยเติบโตมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะออกมา
การฟื้นตัวของยอดขายนอกจากจะมาจากปัจจัยของเศรษฐกิจแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจากการที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยเฉพาะไตรมาส 4/67 ที่มีการจับจ่ายใช้สอยกันมาก และยังมีการเปิดสาขาใหม่ของ HMPRO ที่เข้ามาเสริม ช่วยหนุนยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อีกทั้ง HMPRO ยังเป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดี ส่งผลให้มีความสามารถในการทำกำไรดีต่อเนื่อง โดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท/หุ้น
ด้านนักวิเคราะห์ฯ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองแนวโน้มของ HMPRO มีลุ้นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/67 ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นของภาครัฐ อีกทั้งยังมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4-6 สาขา ในครึ่งปีหลังนี้ แม้ว่าในภาพรวมกำลังซื้อในประเทศยังชะลอตัว กระทบต่อยอดขายของ HMPRO แต่มองว่ามีโอกาสฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนต่างๆของภาครัฐออกมาชัดเจน ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย
ขณะเดียวกัน สินค้าที่เป็น Private Brand ยังมีการขายที่ดี และได้รับความนิยมต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูงกว่าสินค้าทั่วไป ทำให้ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนต่ออัตรากำไรขั้นต้นของ HMPRO ต่อเนื่อง และราคาหุ้นลงมาค่อนข้างมาก ทำให้มีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 11.30 บาท/หุ้น และให้คำแนะนำ "ซื้อ"
ส่วน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน HMPRO จะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของยอดขายที่กลับมาโดดเด่นมากขึ้น จากการที่มีการเปิดสาขาใหม่เข้ามาเสริม และยังคาดหวังผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยหนุนภาพรวมของการจับจ่ายใช้สอยให้มีความคึกคักมากขึ้น
ด้านราคาหุ้นปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก สะท้อนภาพการชะลอตัวของยอดขายไปค่อนข้างมากแล้ว ทำให้เริ่มมี upside จากราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น และศักยภาพของ HMPRO ยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ดี โดยเฉพาะการขายสินค้า Private Brand ที่ให้มาร์จิ้นดี รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดี ทำให้ยังคงประมาณการกำไรปี 67 โตได้ 9% จากปีก่อน และคงคำแนะนำ "ซื้อ"