นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกได้ต่อ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนคาดหวังเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้เป็น 3 ครั้งแล้ว จากเดิมคาดปรับลด 2 ครั้งโดยจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย.และธ.ค.นี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุน
ทั้งนี้ในประเทศยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตวันแรก คาดบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาหาร แบงก์ และไฟแนนซ์ ต่อเนื่อง นอกจากนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำของกลุ่มฮามาสได้ถูกกองกำลังทหารของอิสราเอลสังหารในประเทศอิหร่าน และกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ได้ปัจจัยหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ เพิ่มอีก 3,668 เมกะวัตต์
ให้แนวรับไว้ที่ 1,315 จุด และ แนวต้าน 1,325-1,330 จุด