SET ปิดวันนี้ 1,322.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด (+0.14%) มูลค่าซื้อขายราว 36,899.13 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงเช้าดีดขึ้นตามตลาดภูมิภาค บ่ายย่อตัวจากแรงเทขายกำไรหลัง SET แรลลี่ 4 วันติดรวมกว่า 30 จุด แต่ยังไร้ปัจจัยใหม่หนุนดัชนีไปต่อ คาดพรุ่งนี้แกว่งคล้ายวันนี้ในกรอบแนวต้าน 1,325-1,330 จุด แนวรับ 1,315 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,322.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด (+0.14%) มูลค่าซื้อขายราว 36,899.13 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีบวกขึ้นมาได้ในช่วงเช้า แต่บ่ายย่อตัวลง โดยทำจุดต่ำสุด 1,319.29 จุด และทำจุดสูงสุด 1,329.76 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 233 หลักทรัพย์ ลดลง 238 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 175 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่าว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาค แต่เริ่มเห็นแรงขายหลังชั่วโมงแรก เป็นการขายทำกำไรหลังจากดัชนี SET ขึ้นมา 4 วันติดต่อกัน รวมกว่า 30 กว่าจุด จากความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.
โดยวันนี้มีแรงขายทำกำไรออกมามากในช่วงบ่าย เพราะตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยหนุนให้ไปต่อ ต่างจากตลาดหุ้นอื่นที่มีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นตัว drive ตลาดอ ทำให้มีแรงขายสลับแรงเก็งกำไร โดยเฉพาะหุ้นเล็ก ขณะที่บางกลุ่มก็ยังยืนบวกได้ในช่วงบ่าย
แนวโน้มพรุ่งนี้มองว่าตลดาจะเคลื่อนไหวลักษณะจะคล้ายวันนี้ แต่ไม่แรง โดยให้แนวต้านที่ 1,325-1,330 จุด แนวรับที่ 1,315 จุด และคาดว่าในสัปดาห์หน้าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์ช่วง 1,300-1,330 จุด รอศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.นี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,392.14 ล้านบาท ปิดที่ 3.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,771.90 ล้านบาท ปิดที่ 23.10 บาท ลดลง 0.90 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,551.41 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,523.32 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,477.08 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 0.25 บาท