นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับลดลงมากกว่า 20 จุด ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งโลก ซึ่งเชื่อว่า ดัชนีหุ้นระดับ 1,300 จุด บวก/ลบ ยังยืนอยู่ได้ด้วยปัจจัยพื้นฐาน และนักลงทุนรอความชัดเจนทั้งจากปัจจัยภายใน และภายนอกประเทศ โดยหากทุกอย่างชัดเจนก็เชื่อว่าดัชนีจะดีขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่าย ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังร่วงต่อ โดยปรับลดลงกว่า 30 จุด ณ เวลา 14.02 น. รับแรงขายต่อเนื่องจากภาคเช้า และเป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาค ทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้, ตลาดหุ้นไต้หวัน เป็นต้น
ส่วนความคืบหน้าของกองทุนวายุภักษ์นั้น นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาในช่วงเดือน ต.ค.นี้แน่นอน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ร่วงแรงสอดคล้องกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งแรง และช่วงเช้าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียก็ปรับตัวลงค่อนข้างแรงตาม โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นักลงทุนยังต้องติดตามดูข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มาจากปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบ และส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ต้องฝากให้นักลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะข่าวที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยในประเทศ แต่มองว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงก็เป็นโอกาสและจังหวะในการเข้าลงทุนได้ นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงและความเหมาะสมในการลงทุนประกอบอย่างรอบคอบ เพราะยังมีปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาสร้างความผันผวนได้ตลอดเวลา
สำหรับตลาดหุ้นไทยมองว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังคงมีความแข็งแกร่ง และมีปัจจัยบวกจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐออกมาต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนจะต้องมีการพิจารณาเลือกลงทุนเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์ ทำให้นักลงทุนสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนในตลาดหุ้นได้ ซึ่งจะต้องมีการวิเคราห์การลงทุนอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
"การที่ตลาดหุ้นปรับลงเยอะ ก็เป็นโอกาสในการลงทุน แต่ฝากดูข้อมูลข่าวสาร ภาวะปัจจัยภายรอกของโลก ที่ต้องติดตามดีๆ อาจเลือกลงทุนเป็นราย sector ที่ยังแข็งแกร่ง และสร้างโอกาสในการลงทุนได้ โดยต้องมีการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ" นายภากร กล่าว